GeForce RTX 5070 เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ GeForce RTX 5070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 มีประสิทธิภาพดีกว่า TITAN RTX อย่างน่าประทับใจ 54% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 86 | 19 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 48 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 1.59 | 54.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.98 | 20.68 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | GB205 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 4 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5070 มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 3328%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 6144 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 2325 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2512 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 31,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 250 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 482.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 30.87 TFLOPS |
ROPs | 96 | 80 |
TMUs | 288 | 192 |
Tensor Cores | 576 | 192 |
Ray Tracing Cores | 72 | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 245 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
672.0 จีบี/s | 672.0 จีบี/s | |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
CUDA | 7.5 | 10.1 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 161
−32.9%
| 214
+32.9%
|
1440p | 102
−20.6%
| 123
+20.6%
|
4K | 73
−5.5%
| 77
+5.5%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.52
−505%
| 2.57
+505%
|
1440p | 24.50
−449%
| 4.46
+449%
|
4K | 34.23
−380%
| 7.13
+380%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 353
+10%
|
300−350
−10%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−124%
|
170−180
+124%
|
Dead Island 2 | 314
+5.7%
|
290−300
−5.7%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 163
−11.7%
|
180−190
+11.7%
|
Counter-Strike 2 | 342
+6.5%
|
300−350
−6.5%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−124%
|
170−180
+124%
|
Dead Island 2 | 299
+0.7%
|
290−300
−0.7%
|
Far Cry 5 | 165
−95.2%
|
322
+95.2%
|
Fortnite | 169
−78.7%
|
300−350
+78.7%
|
Forza Horizon 4 | 187
−50.3%
|
280−290
+50.3%
|
Forza Horizon 5 | 168
−95.8%
|
329
+95.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+14.8%
|
170−180
−14.8%
|
Valorant | 348
−17.2%
|
400−450
+17.2%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 164
−11%
|
180−190
+11%
|
Counter-Strike 2 | 270
−18.9%
|
300−350
+18.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−124%
|
170−180
+124%
|
Dead Island 2 | 224
−32.6%
|
290−300
+32.6%
|
Dota 2 | 155
−48.4%
|
230−240
+48.4%
|
Far Cry 5 | 156
−96.2%
|
306
+96.2%
|
Fortnite | 176
−71.6%
|
300−350
+71.6%
|
Forza Horizon 4 | 186
−51.1%
|
280−290
+51.1%
|
Forza Horizon 5 | 153
−95.4%
|
299
+95.4%
|
Grand Theft Auto V | 152
−12.5%
|
170−180
+12.5%
|
Metro Exodus | 134
−34.3%
|
180−190
+34.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
−8%
|
170−180
+8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 267
−63.3%
|
436
+63.3%
|
Valorant | 336
−21.4%
|
400−450
+21.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160
−13.8%
|
180−190
+13.8%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−127%
|
170−180
+127%
|
Dead Island 2 | 165
−80%
|
290−300
+80%
|
Dota 2 | 148
−48.6%
|
220−230
+48.6%
|
Far Cry 5 | 146
−98.6%
|
290
+98.6%
|
Forza Horizon 4 | 175
−60.6%
|
280−290
+60.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
−29.4%
|
170−180
+29.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−51.1%
|
210
+51.1%
|
Valorant | 236
−72.9%
|
400−450
+72.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 134
−125%
|
300−350
+125%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 157
−38.2%
|
210−220
+38.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−62.3%
|
500−550
+62.3%
|
Grand Theft Auto V | 114
−28.9%
|
140−150
+28.9%
|
Metro Exodus | 85
−43.5%
|
120−130
+43.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 307
−58%
|
450−500
+58%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−62.5%
|
180−190
+62.5%
|
Cyberpunk 2077 | 66
−56.1%
|
100−110
+56.1%
|
Dead Island 2 | 116
−59.5%
|
180−190
+59.5%
|
Far Cry 5 | 134
−65.7%
|
222
+65.7%
|
Forza Horizon 4 | 157
−56.7%
|
240−250
+56.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−78.5%
|
166
+78.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−21.8%
|
150−160
+21.8%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45
−118%
|
95−100
+118%
|
Dead Island 2 | 46
−52.2%
|
70−75
+52.2%
|
Grand Theft Auto V | 134
−26.9%
|
170−180
+26.9%
|
Metro Exodus | 55
−47.3%
|
80−85
+47.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
−45.6%
|
150
+45.6%
|
Valorant | 300
−10.7%
|
300−350
+10.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
−39.2%
|
130−140
+39.2%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
−75%
|
95−100
+75%
|
Cyberpunk 2077 | 33
−51.5%
|
50−55
+51.5%
|
Dead Island 2 | 59
−42.4%
|
80−85
+42.4%
|
Dota 2 | 146
−50.7%
|
220−230
+50.7%
|
Far Cry 5 | 80
−45%
|
116
+45%
|
Forza Horizon 4 | 114
−77.2%
|
200−210
+77.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 74
−6.8%
|
75−80
+6.8%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RTX 5070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 เร็วกว่า 33% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 เร็วกว่า 21% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 เร็วกว่า 5% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 15%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5070 เร็วกว่า 127%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- RTX 5070 เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (87%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 47.40 | 72.99 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 4 มีนาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 250 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 5070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 54% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 12%
GeForce RTX 5070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า TITAN RTX ในการทดสอบประสิทธิภาพ