GeForce RTX 5060 เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ GeForce RTX 5060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5060 มีประสิทธิภาพดีกว่า TITAN RTX อย่างปานกลาง 10% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 90 | 68 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 12 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 6.78 | 97.87 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.24 | 25.93 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 1344%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 96 | 48 |
TMUs | 288 | 120 |
Tensor Cores | 576 | 120 |
Ray Tracing Cores | 72 | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 267 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
672.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
CUDA | 7.5 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 161
+0%
| 161
+0%
|
1440p | 102
+30.8%
| 78
−30.8%
|
4K | 73
+40.4%
| 52
−40.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.52
−736%
| 1.86
+736%
|
1440p | 24.50
−539%
| 3.83
+539%
|
4K | 34.23
−495%
| 5.75
+495%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 353
+35.2%
|
260−270
−35.2%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−51.9%
|
120−130
+51.9%
|
God of War | 182
−3.8%
|
189
+3.8%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 163
+7.2%
|
150−160
−7.2%
|
Counter-Strike 2 | 342
+31%
|
260−270
−31%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−51.9%
|
120−130
+51.9%
|
Far Cry 5 | 165
−50.9%
|
249
+50.9%
|
Fortnite | 169
−27.8%
|
210−220
+27.8%
|
Forza Horizon 4 | 187
−2.7%
|
190−200
+2.7%
|
Forza Horizon 5 | 168
+9.8%
|
150−160
−9.8%
|
God of War | 155
−5.2%
|
163
+5.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+16.1%
|
170−180
−16.1%
|
Valorant | 348
+27%
|
270−280
−27%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 164
+7.9%
|
150−160
−7.9%
|
Counter-Strike 2 | 270
+3.4%
|
260−270
−3.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−51.9%
|
120−130
+51.9%
|
Dota 2 | 155
−3.2%
|
160−170
+3.2%
|
Far Cry 5 | 156
−45.5%
|
227
+45.5%
|
Fortnite | 176
−22.7%
|
210−220
+22.7%
|
Forza Horizon 4 | 186
−3.2%
|
190−200
+3.2%
|
Forza Horizon 5 | 153
+0%
|
150−160
+0%
|
God of War | 129
−3.9%
|
134
+3.9%
|
Grand Theft Auto V | 152
−18.4%
|
180
+18.4%
|
Metro Exodus | 134
+8.9%
|
120−130
−8.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
−6.7%
|
170−180
+6.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 267
−6%
|
283
+6%
|
Valorant | 336
+22.6%
|
270−280
−22.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160
+5.3%
|
150−160
−5.3%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−53.8%
|
120−130
+53.8%
|
Dota 2 | 148
−8.1%
|
160−170
+8.1%
|
Far Cry 5 | 146
−45.9%
|
213
+45.9%
|
Forza Horizon 4 | 175
−9.7%
|
190−200
+9.7%
|
God of War | 96
+6.7%
|
90
−6.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
−27.9%
|
170−180
+27.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−2.9%
|
143
+2.9%
|
Valorant | 236
−16.1%
|
270−280
+16.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 134
−61.2%
|
210−220
+61.2%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 157
+14.6%
|
130−140
−14.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−11.3%
|
350−400
+11.3%
|
Grand Theft Auto V | 114
−14.9%
|
131
+14.9%
|
Metro Exodus | 85
+10.4%
|
75−80
−10.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 307
−0.7%
|
300−350
+0.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−8%
|
120−130
+8%
|
Cyberpunk 2077 | 66
+3.1%
|
60−65
−3.1%
|
Far Cry 5 | 134
−8.2%
|
145
+8.2%
|
Forza Horizon 4 | 157
+2.6%
|
150−160
−2.6%
|
God of War | 83
+9.2%
|
76
−9.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−15.2%
|
106
+15.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−11.3%
|
130−140
+11.3%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45
−37.8%
|
60−65
+37.8%
|
Grand Theft Auto V | 134
+7.2%
|
125
−7.2%
|
Metro Exodus | 55
+14.6%
|
45−50
−14.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
+15.7%
|
89
−15.7%
|
Valorant | 300
+2.4%
|
290−300
−2.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
+18.3%
|
80−85
−18.3%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
−12.7%
|
60−65
+12.7%
|
Cyberpunk 2077 | 33
+10%
|
30−33
−10%
|
Dota 2 | 146
−9.6%
|
160−170
+9.6%
|
Far Cry 5 | 80
+6.7%
|
75
−6.7%
|
Forza Horizon 4 | 114
+7.5%
|
100−110
−7.5%
|
God of War | 55
+10%
|
50
−10%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+18.5%
|
80−85
−18.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 74
+2.8%
|
70−75
−2.8%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- เสมอกันในความละเอียด 1080p
- TITAN RTX เร็วกว่า 31% ในความละเอียด 1440p
- TITAN RTX เร็วกว่า 40% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 35%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 61%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 28การทดสอบ (45%)
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 31การทดสอบ (50%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 45.00 | 49.35 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 19 พฤษภาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 145 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 9.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 93.1%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง TITAN RTX และ GeForce RTX 5060 ได้อย่างชัดเจน