GeForce RTX 5070 เทียบกับ RTX 2070 Super
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2070 Super และ GeForce RTX 5070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2070 Super อย่างน่าประทับใจ 59% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 98 | 25 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 14 |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 34.87 | 74.08 |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.41 | 21.12 |
| สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Blackwell 2.0 (2025−2026) |
| ชื่อรหัส GPU | TU104 | GB205 |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 4 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5070 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2070 Super อยู่ 112%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 6144 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1605 MHz | 2325 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2512 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | 31,100 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 215 Watt | 250 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 283.2 | 482.3 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 9.062 TFLOPS | 30.87 TFLOPS |
| ROPs | 64 | 80 |
| TMUs | 160 | 192 |
| Tensor Cores | 320 | 192 |
| Ray Tracing Cores | 40 | 48 |
| L1 Cache | 2.5 เอ็มบี | 6 เอ็มบี |
| L2 Cache | 4 เอ็มบี | 48 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
| ความยาว | 267 mm | 245 mm |
| ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
| 448.0 จีบี/s | 672.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.0, 3x DisplayPort 1.4a, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
| HDMI | + | + |
| รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 3.0 | 3.0 |
| Vulkan | 1.3 | 1.4 |
| CUDA | 7.5 | 10.1 |
| DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 132
−65.2%
| 218
+65.2%
|
| 1440p | 80
−55%
| 124
+55%
|
| 4K | 52
−48.1%
| 77
+48.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 3.78
−50.1%
| 2.52
+50.1%
|
| 1440p | 6.24
−40.9%
| 4.43
+40.9%
|
| 4K | 9.60
−34.6%
| 7.13
+34.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 341
+6.9%
|
300−350
−6.9%
|
| Cyberpunk 2077 | 94
−88.3%
|
170−180
+88.3%
|
| Hogwarts Legacy | 141
−61%
|
227
+61%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 118
−54.2%
|
180−190
+54.2%
|
| Counter-Strike 2 | 316
−0.9%
|
300−350
+0.9%
|
| Cyberpunk 2077 | 84
−111%
|
170−180
+111%
|
| Far Cry 5 | 123
−162%
|
322
+162%
|
| Fortnite | 218
−38.5%
|
300−350
+38.5%
|
| Forza Horizon 4 | 174
−60.9%
|
280−290
+60.9%
|
| Forza Horizon 5 | 150
−119%
|
329
+119%
|
| Hogwarts Legacy | 108
−83.3%
|
198
+83.3%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 186
+6.3%
|
170−180
−6.3%
|
| Valorant | 279
−45.9%
|
400−450
+45.9%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 103
−76.7%
|
180−190
+76.7%
|
| Counter-Strike 2 | 194
−64.4%
|
300−350
+64.4%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
| Cyberpunk 2077 | 78
−127%
|
170−180
+127%
|
| Dota 2 | 137
−53.3%
|
210−220
+53.3%
|
| Far Cry 5 | 117
−162%
|
306
+162%
|
| Fortnite | 193
−56.5%
|
300−350
+56.5%
|
| Forza Horizon 4 | 172
−62.8%
|
280−290
+62.8%
|
| Forza Horizon 5 | 133
−125%
|
299
+125%
|
| Grand Theft Auto V | 145
−18.6%
|
170−180
+18.6%
|
| Hogwarts Legacy | 84
−88.1%
|
158
+88.1%
|
| Metro Exodus | 90
−98.9%
|
170−180
+98.9%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 165
−6.1%
|
170−180
+6.1%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 181
−141%
|
436
+141%
|
| Valorant | 270
−50.7%
|
400−450
+50.7%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 95
−91.6%
|
180−190
+91.6%
|
| Cyberpunk 2077 | 73
−142%
|
170−180
+142%
|
| Dota 2 | 129
−55%
|
200−210
+55%
|
| Far Cry 5 | 110
−164%
|
290
+164%
|
| Forza Horizon 4 | 153
−83%
|
280−290
+83%
|
| Hogwarts Legacy | 68
−77.9%
|
121
+77.9%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 154
−13.6%
|
170−180
+13.6%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 100
−110%
|
210
+110%
|
| Valorant | 194
−110%
|
400−450
+110%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 168
−79.8%
|
300−350
+79.8%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 124
−75.8%
|
210−220
+75.8%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−67%
|
500−550
+67%
|
| Grand Theft Auto V | 95
−53.7%
|
140−150
+53.7%
|
| Metro Exodus | 57
−114%
|
120−130
+114%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
| Valorant | 263
−84.4%
|
450−500
+84.4%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 83
−118%
|
180−190
+118%
|
| Cyberpunk 2077 | 47
−119%
|
100−110
+119%
|
| Far Cry 5 | 98
−127%
|
222
+127%
|
| Forza Horizon 4 | 125
−96%
|
240−250
+96%
|
| Hogwarts Legacy | 47
−89.4%
|
89
+89.4%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 85−90
−90.8%
|
166
+90.8%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 117
−29.1%
|
150−160
+29.1%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 28
−250%
|
95−100
+250%
|
| Grand Theft Auto V | 93
−80.6%
|
160−170
+80.6%
|
| Hogwarts Legacy | 27−30
−96.4%
|
55−60
+96.4%
|
| Metro Exodus | 37
−119%
|
80−85
+119%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 68
−121%
|
150
+121%
|
| Valorant | 258
−27.9%
|
300−350
+27.9%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 53
−155%
|
130−140
+155%
|
| Counter-Strike 2 | 50−55
−88.5%
|
95−100
+88.5%
|
| Cyberpunk 2077 | 23
−117%
|
50−55
+117%
|
| Dota 2 | 128
−56.3%
|
200−210
+56.3%
|
| Far Cry 5 | 54
−115%
|
116
+115%
|
| Forza Horizon 4 | 84
−139%
|
200−210
+139%
|
| Hogwarts Legacy | 25
−108%
|
52
+108%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 66
−45.5%
|
95−100
+45.5%
|
4K
Epic
| Fortnite | 58
−36.2%
|
75−80
+36.2%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2070 Super และ RTX 5070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 เร็วกว่า 65% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 เร็วกว่า 55% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 เร็วกว่า 48% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super เร็วกว่า 7%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 เร็วกว่า 250%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 5070 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 41.08 | 65.46 |
| ความใหม่ล่าสุด | 9 กรกฎาคม 2019 | 4 มีนาคม 2025 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 215 วัตต์ | 250 วัตต์ |
RTX 2070 Super มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 16.3%
ในทางกลับกัน RTX 5070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 59.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 5070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2070 Super ในการทดสอบประสิทธิภาพ
