GeForce RTX 5060 เทียบกับ GTX 1660 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti และ GeForce RTX 5060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5060 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti อย่างน่าประทับใจ 63% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 194 | 64 |
จัดอันดับตามความนิยม | 26 | 29 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 34.35 | 98.03 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.42 | 26.12 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 Ti อยู่ 185%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 169.9 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.437 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 48 | 48 |
TMUs | 96 | 120 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 120 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 229 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1750 MHz |
288.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
CUDA | 7.5 | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 104
−54.8%
| 161
+54.8%
|
1440p | 59
−32.2%
| 78
+32.2%
|
4K | 39
−33.3%
| 52
+33.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.68
−44.5%
| 1.86
+44.5%
|
1440p | 4.73
−23.4%
| 3.83
+23.4%
|
4K | 7.15
−24.4%
| 5.75
+24.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 170−180
−49.2%
|
260−270
+49.2%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−56.4%
|
120−130
+56.4%
|
Sons of the Forest | 65−70
−52.2%
|
100−110
+52.2%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 129
−18.6%
|
150−160
+18.6%
|
Counter-Strike 2 | 170−180
−49.2%
|
260−270
+49.2%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−71.8%
|
120−130
+71.8%
|
Far Cry 5 | 109
−128%
|
249
+128%
|
Fortnite | 247
+12.8%
|
210−220
−12.8%
|
Forza Horizon 4 | 131
−47.3%
|
190−200
+47.3%
|
Forza Horizon 5 | 107
−43.9%
|
150−160
+43.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 200
+14.9%
|
170−180
−14.9%
|
Sons of the Forest | 65−70
−52.2%
|
100−110
+52.2%
|
Valorant | 190−200
−40.8%
|
270−280
+40.8%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 112
−36.6%
|
150−160
+36.6%
|
Counter-Strike 2 | 170−180
−49.2%
|
260−270
+49.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−2.2%
|
270−280
+2.2%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−114%
|
120−130
+114%
|
Dota 2 | 181
−60.2%
|
290−300
+60.2%
|
Far Cry 5 | 99
−129%
|
227
+129%
|
Fortnite | 143
−53.1%
|
210−220
+53.1%
|
Forza Horizon 4 | 122
−58.2%
|
190−200
+58.2%
|
Forza Horizon 5 | 94
−63.8%
|
150−160
+63.8%
|
Grand Theft Auto V | 119
−51.3%
|
180
+51.3%
|
Metro Exodus | 55
−127%
|
120−130
+127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150
−16%
|
170−180
+16%
|
Sons of the Forest | 65−70
−52.2%
|
100−110
+52.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 116
−144%
|
283
+144%
|
Valorant | 190−200
−40.8%
|
270−280
+40.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 102
−50%
|
150−160
+50%
|
Cyberpunk 2077 | 46
−165%
|
120−130
+165%
|
Dota 2 | 168
−60.7%
|
270−280
+60.7%
|
Far Cry 5 | 94
−127%
|
213
+127%
|
Forza Horizon 4 | 97
−99%
|
190−200
+99%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−34.9%
|
170−180
+34.9%
|
Sons of the Forest | 65−70
−52.2%
|
100−110
+52.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 62
−131%
|
143
+131%
|
Valorant | 118
−134%
|
270−280
+134%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 117
−87.2%
|
210−220
+87.2%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 70−75
−90.4%
|
130−140
+90.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−65.4%
|
350−400
+65.4%
|
Grand Theft Auto V | 62
−111%
|
131
+111%
|
Metro Exodus | 33
−136%
|
75−80
+136%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−34.6%
|
300−350
+34.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 76
−61.8%
|
120−130
+61.8%
|
Cyberpunk 2077 | 27
−141%
|
65−70
+141%
|
Far Cry 5 | 67
−116%
|
145
+116%
|
Forza Horizon 4 | 77
−101%
|
150−160
+101%
|
Sons of the Forest | 45−50
−73.9%
|
80−85
+73.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−92.7%
|
106
+92.7%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75
−85.3%
|
130−140
+85.3%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−85.3%
|
60−65
+85.3%
|
Grand Theft Auto V | 56
−123%
|
125
+123%
|
Metro Exodus | 21
−133%
|
45−50
+133%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
−107%
|
89
+107%
|
Valorant | 180−190
−56.4%
|
290−300
+56.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 43
−93%
|
80−85
+93%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−85.3%
|
60−65
+85.3%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−173%
|
30−33
+173%
|
Dota 2 | 94
−59.6%
|
150−160
+59.6%
|
Far Cry 5 | 35
−114%
|
75
+114%
|
Forza Horizon 4 | 51
−112%
|
100−110
+112%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 39
−110%
|
80−85
+110%
|
Sons of the Forest | 27−30
−85.2%
|
50−55
+85.2%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 25
−192%
|
70−75
+192%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 เร็วกว่า 55% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5060 เร็วกว่า 32% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5060 เร็วกว่า 33% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 15%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 192%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 29.81 | 48.45 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 กุมภาพันธ์ 2019 | 19 พฤษภาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 145 วัตต์ |
GTX 1660 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 20.8%
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 62.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 5060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ