GeForce GTX 1050 Ti เทียบกับ Radeon RX Vega 64
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 64 และ GeForce GTX 1050 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX Vega 64 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 Ti อย่างมหาศาลถึง 124% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 133 | 340 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 4 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 21.81 | 14.11 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.58 | 15.04 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | GP107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 25 ตุลาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $139 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX Vega 64 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1050 Ti อยู่ 55%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 768 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1247 MHz | 1291 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1546 MHz | 1392 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 3,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 75 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | ไม่มีข้อมูล | 97 °C |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 395.8 | 66.82 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.66 TFLOPS | 2.138 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 256 | 48 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 279 mm | 145 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 945 MHz | 7008 MHz |
483.8 จีบี/s | 112 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
Ansel | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.2.131 |
CUDA | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 119
+133%
| 51
−133%
|
1440p | 82
+165%
| 31
−165%
|
4K | 54
+116%
| 25
−116%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.19
−53.9%
| 2.73
+53.9%
|
1440p | 6.09
−35.7%
| 4.48
+35.7%
|
4K | 9.24
−66.2%
| 5.56
+66.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 100−110
+153%
|
40−45
−153%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+171%
|
27−30
−171%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+144%
|
30−35
−144%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 100−110
+153%
|
40−45
−153%
|
Battlefield 5 | 161
+156%
|
63
−156%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+171%
|
27−30
−171%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+144%
|
30−35
−144%
|
Far Cry 5 | 110
+108%
|
50−55
−108%
|
Fortnite | 150−160
+76.7%
|
85−90
−76.7%
|
Forza Horizon 4 | 167
+142%
|
69
−142%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+138%
|
40−45
−138%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+149%
|
55
−149%
|
Valorant | 315
+154%
|
120−130
−154%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 100−110
+153%
|
40−45
−153%
|
Battlefield 5 | 146
+181%
|
52
−181%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+171%
|
27−30
−171%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+36.5%
|
200−210
−36.5%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+144%
|
30−35
−144%
|
Dota 2 | 150
+6.4%
|
141
−6.4%
|
Far Cry 5 | 104
+96.2%
|
50−55
−96.2%
|
Fortnite | 150−160
+134%
|
65
−134%
|
Forza Horizon 4 | 158
+147%
|
64
−147%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+138%
|
40−45
−138%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
+82.8%
|
64
−82.8%
|
Metro Exodus | 73
+181%
|
26
−181%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+174%
|
50
−174%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 132
+169%
|
49
−169%
|
Valorant | 293
+136%
|
120−130
−136%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 139
+173%
|
51
−173%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+171%
|
27−30
−171%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+144%
|
30−35
−144%
|
Dota 2 | 138
+10.4%
|
125
−10.4%
|
Far Cry 5 | 98
+172%
|
36
−172%
|
Forza Horizon 4 | 128
+184%
|
45
−184%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+138%
|
40−45
−138%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
+281%
|
36
−281%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
+196%
|
26
−196%
|
Valorant | 140
+164%
|
53
−164%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+238%
|
45
−238%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+61.1%
|
18−20
−61.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+106%
|
110−120
−106%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
+134%
|
29
−134%
|
Metro Exodus | 46
+142%
|
18−20
−142%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+15.1%
|
150−160
−15.1%
|
Valorant | 263
+68.6%
|
150−160
−68.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
+150%
|
36
−150%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+171%
|
14−16
−171%
|
Far Cry 5 | 81
+138%
|
30−35
−138%
|
Forza Horizon 4 | 98
+158%
|
35−40
−158%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+118%
|
27−30
−118%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
+158%
|
24−27
−158%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 85−90
+159%
|
30−35
−159%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 27−30
+115%
|
12−14
−115%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+129%
|
7−8
−129%
|
Grand Theft Auto V | 70−75
+154%
|
28
−154%
|
Metro Exodus | 46
+411%
|
9
−411%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
+129%
|
21−24
−129%
|
Valorant | 205
+141%
|
85−90
−141%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 59
+228%
|
18
−228%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+129%
|
7−8
−129%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+183%
|
6−7
−183%
|
Dota 2 | 96
+52.4%
|
63
−52.4%
|
Far Cry 5 | 44
+175%
|
16−18
−175%
|
Forza Horizon 4 | 66
+230%
|
20
−230%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+177%
|
12−14
−177%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
+291%
|
11
−291%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
+223%
|
13
−223%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 64 และ GTX 1050 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เร็วกว่า 133% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 165% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 116% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 64 เร็วกว่า 411%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX Vega 64 เหนือกว่า GTX 1050 Ti ในการทดสอบทั้ง 67 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 36.84 | 16.41 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 สิงหาคม 2017 | 25 ตุลาคม 2016 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RX Vega 64 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 124.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือนและ
ในทางกลับกัน GTX 1050 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 293.3%
Radeon RX Vega 64 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ