GeForce RTX 5050 Mobile เทียบกับ Arc A730M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A730M และ GeForce RTX 5050 Mobile โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5050 Mobile มีประสิทธิภาพดีกว่า A730M อย่างน่าประทับใจ 55% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 263 | 148 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 22.54 | 55.89 |
| สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | Blackwell 2.0 (2025−2026) |
| ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | GB207 |
| ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 24 มิถุนายน 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 2560 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1100 MHz | 1020 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2050 MHz | 1500 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 16,900 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 50 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 393.6 | 120.0 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.6 TFLOPS | 7.68 TFLOPS |
| ROPs | 96 | 32 |
| TMUs | 192 | 80 |
| Tensor Cores | 384 | 80 |
| Ray Tracing Cores | 24 | 20 |
| L1 Cache | 4.5 เอ็มบี | 2.5 เอ็มบี |
| L2 Cache | 12 เอ็มบี | 32 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | medium sized |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1500 MHz |
| 336.0 จีบี/s | 384.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 3.0 | 3.0 |
| Vulkan | 1.3 | 1.4 |
| CUDA | - | 12.0 |
| DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 74
+0%
| 74
+0%
|
| 1440p | 45
+7.1%
| 42
−7.1%
|
| 4K | 22
−36.4%
| 30−35
+36.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 169
−20.7%
|
200−210
+20.7%
|
| Cyberpunk 2077 | 71
−19.7%
|
85−90
+19.7%
|
| Hogwarts Legacy | 70
−21.4%
|
85−90
+21.4%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 95−100
−34.7%
|
120−130
+34.7%
|
| Counter-Strike 2 | 155
−31.6%
|
200−210
+31.6%
|
| Cyberpunk 2077 | 64
−32.8%
|
85−90
+32.8%
|
| Far Cry 5 | 93
−26.9%
|
110−120
+26.9%
|
| Fortnite | 110−120
−35.6%
|
160−170
+35.6%
|
| Forza Horizon 4 | 95−100
−49.5%
|
140−150
+49.5%
|
| Forza Horizon 5 | 86
−34.9%
|
110−120
+34.9%
|
| Hogwarts Legacy | 49
−73.5%
|
85−90
+73.5%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−55.3%
|
140−150
+55.3%
|
| Valorant | 160−170
−32.1%
|
210−220
+32.1%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 95−100
−34.7%
|
120−130
+34.7%
|
| Counter-Strike 2 | 98
−108%
|
200−210
+108%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
−8.2%
|
270−280
+8.2%
|
| Cyberpunk 2077 | 54
−57.4%
|
85−90
+57.4%
|
| Dota 2 | 90
−44.4%
|
130−140
+44.4%
|
| Far Cry 5 | 86
−37.2%
|
110−120
+37.2%
|
| Fortnite | 110−120
−35.6%
|
160−170
+35.6%
|
| Forza Horizon 4 | 95−100
−49.5%
|
140−150
+49.5%
|
| Forza Horizon 5 | 80
−45%
|
110−120
+45%
|
| Grand Theft Auto V | 72
−93.1%
|
139
+93.1%
|
| Hogwarts Legacy | 44
−93.2%
|
85−90
+93.2%
|
| Metro Exodus | 43
−102%
|
85−90
+102%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−55.3%
|
140−150
+55.3%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 110
−16.4%
|
120−130
+16.4%
|
| Valorant | 160−170
−32.1%
|
210−220
+32.1%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 95−100
−34.7%
|
120−130
+34.7%
|
| Cyberpunk 2077 | 52
−63.5%
|
85−90
+63.5%
|
| Dota 2 | 80
−50%
|
120−130
+50%
|
| Far Cry 5 | 81
−45.7%
|
110−120
+45.7%
|
| Forza Horizon 4 | 95−100
−49.5%
|
140−150
+49.5%
|
| Hogwarts Legacy | 34
−150%
|
85−90
+150%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−55.3%
|
140−150
+55.3%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−184%
|
120−130
+184%
|
| Valorant | 102
−47.1%
|
150−160
+47.1%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 110−120
−35.6%
|
160−170
+35.6%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 53
−71.7%
|
90−95
+71.7%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 170−180
−50.6%
|
250−260
+50.6%
|
| Grand Theft Auto V | 40−45
−114%
|
94
+114%
|
| Metro Exodus | 30−35
−65.6%
|
50−55
+65.6%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−54.3%
|
270−280
+54.3%
|
| Valorant | 200−210
−23.2%
|
250−260
+23.2%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 65−70
−41.8%
|
95−100
+41.8%
|
| Cyberpunk 2077 | 31
−35.5%
|
40−45
+35.5%
|
| Far Cry 5 | 55−60
−60%
|
85−90
+60%
|
| Forza Horizon 4 | 60−65
−68.9%
|
100−110
+68.9%
|
| Hogwarts Legacy | 27−30
−59.3%
|
40−45
+59.3%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−78.9%
|
65−70
+78.9%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 55−60
−68.4%
|
95−100
+68.4%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 7
−500%
|
40−45
+500%
|
| Grand Theft Auto V | 34
−132%
|
75−80
+132%
|
| Hogwarts Legacy | 14−16
−40%
|
21−24
+40%
|
| Metro Exodus | 21
−57.1%
|
30−35
+57.1%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−61.1%
|
55−60
+61.1%
|
| Valorant | 140−150
−60%
|
220−230
+60%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 35−40
−56.8%
|
55−60
+56.8%
|
| Counter-Strike 2 | 21−24
−52.2%
|
35−40
+52.2%
|
| Cyberpunk 2077 | 10−11
−90%
|
18−20
+90%
|
| Dota 2 | 75−80
−51.9%
|
120−130
+51.9%
|
| Far Cry 5 | 35
−37.1%
|
45−50
+37.1%
|
| Forza Horizon 4 | 40−45
−64.3%
|
65−70
+64.3%
|
| Hogwarts Legacy | 14−16
−53.3%
|
21−24
+53.3%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 24−27
−92%
|
45−50
+92%
|
4K
Epic
| Fortnite | 24−27
−80.8%
|
45−50
+80.8%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A730M และ RTX 5050 Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- เสมอกันในความละเอียด 1080p
- Arc A730M เร็วกว่า 7% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 36% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 500%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5050 Mobile เหนือกว่า Arc A730M ในการทดสอบทั้ง 59 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 23.44 | 36.30 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 50 วัตต์ |
Arc A730M มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 5050 Mobile มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 54.9% และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 60%
GeForce RTX 5050 Mobile เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A730M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
