RTX 6000 Ada Generation เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX กับ RTX 6000 Ada Generation รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 6000 Ada Generation มีประสิทธิภาพดีกว่า TITAN RTX อย่างน่าประทับใจ 51% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 68 | 16 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.12 | 7.61 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.05 | 17.00 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | AD102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 3 ธันวาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $6,799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 6000 Ada Generation มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 259%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 18176 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 915 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 76,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 1,423 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 91.06 TFLOPS |
ROPs | 96 | 192 |
TMUs | 288 | 568 |
Tensor Cores | 576 | 568 |
Ray Tracing Cores | 72 | 142 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 48 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2500 MHz |
672.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 4x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 164
−12.2%
| 184
+12.2%
|
1440p | 103
−57.3%
| 162
+57.3%
|
4K | 74
−50%
| 111
+50%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.24
+142%
| 36.95
−142%
|
1440p | 24.26
+73%
| 41.97
−73%
|
4K | 33.77
+81.4%
| 61.25
−81.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 264
+25.7%
|
210−220
−25.7%
|
Counter-Strike 2 | 166
+1.2%
|
164
−1.2%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−119%
|
170−180
+119%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 198
−6.1%
|
210−220
+6.1%
|
Battlefield 5 | 163
−10.4%
|
180−190
+10.4%
|
Counter-Strike 2 | 141
−15.6%
|
163
+15.6%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−119%
|
170−180
+119%
|
Far Cry 5 | 165
+26.9%
|
130
−26.9%
|
Fortnite | 169
−78.7%
|
300−350
+78.7%
|
Forza Horizon 4 | 187
−46.5%
|
270−280
+46.5%
|
Forza Horizon 5 | 168
−17.9%
|
190−200
+17.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+14.1%
|
170−180
−14.1%
|
Valorant | 348
−13.5%
|
350−400
+13.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 118
−78%
|
210−220
+78%
|
Battlefield 5 | 164
−9.8%
|
180−190
+9.8%
|
Counter-Strike 2 | 120
−29.2%
|
155
+29.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−119%
|
170−180
+119%
|
Dota 2 | 155
−48.4%
|
230−240
+48.4%
|
Far Cry 5 | 156
+23.8%
|
126
−23.8%
|
Fortnite | 176
−71.6%
|
300−350
+71.6%
|
Forza Horizon 4 | 186
−47.3%
|
270−280
+47.3%
|
Forza Horizon 5 | 153
−29.4%
|
190−200
+29.4%
|
Grand Theft Auto V | 152
−11.8%
|
170−180
+11.8%
|
Metro Exodus | 134
+17.5%
|
114
−17.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
−8.6%
|
170−180
+8.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 267
−83.1%
|
489
+83.1%
|
Valorant | 336
−17.6%
|
350−400
+17.6%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160
−12.5%
|
180−190
+12.5%
|
Counter-Strike 2 | 110
−33.6%
|
147
+33.6%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−122%
|
170−180
+122%
|
Dota 2 | 148
−48.6%
|
220−230
+48.6%
|
Far Cry 5 | 146
+23.7%
|
118
−23.7%
|
Forza Horizon 4 | 175
−56.6%
|
270−280
+56.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
−30.1%
|
170−180
+30.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−87.1%
|
260
+87.1%
|
Valorant | 236
−67.4%
|
350−400
+67.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 134
−125%
|
300−350
+125%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−103%
|
70−75
+103%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−64.3%
|
500−550
+64.3%
|
Grand Theft Auto V | 114
−25.4%
|
140−150
+25.4%
|
Metro Exodus | 85
−11.8%
|
95
+11.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 307
−58%
|
450−500
+58%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−57.1%
|
170−180
+57.1%
|
Cyberpunk 2077 | 66
−51.5%
|
100−105
+51.5%
|
Far Cry 5 | 134
+13.6%
|
118
−13.6%
|
Forza Horizon 4 | 157
−52.2%
|
230−240
+52.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−141%
|
219
+141%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−22.8%
|
150−160
+22.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−71.1%
|
65−70
+71.1%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−243%
|
79
+243%
|
Grand Theft Auto V | 134
−23.9%
|
160−170
+23.9%
|
Metro Exodus | 55
−63.6%
|
90
+63.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
−78.6%
|
184
+78.6%
|
Valorant | 300
−10.7%
|
300−350
+10.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
−35.1%
|
130−140
+35.1%
|
Counter-Strike 2 | 18
−66.7%
|
30
+66.7%
|
Cyberpunk 2077 | 33
−45.5%
|
45−50
+45.5%
|
Dota 2 | 146
−50.7%
|
220−230
+50.7%
|
Far Cry 5 | 80
−43.8%
|
115
+43.8%
|
Forza Horizon 4 | 114
−70.2%
|
190−200
+70.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 74
−6.8%
|
75−80
+6.8%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RTX 6000 Ada Generation แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1080p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 57% ในความละเอียด 1440p
- RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 50% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 27%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 6000 Ada Generation เร็วกว่า 243%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 8การทดสอบ (13%)
- RTX 6000 Ada Generation เหนือกว่าใน 50การทดสอบ (82%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 48.77 | 73.69 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 3 ธันวาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 48 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 300 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 7.1%
ในทางกลับกัน RTX 6000 Ada Generation มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 51.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
RTX 6000 Ada Generation เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า TITAN RTX ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า TITAN RTX เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ RTX 6000 Ada Generation เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน