Radeon RX 7700 XT เทียบกับ RX Vega 64
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 64 และ Radeon RX 7700 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7700 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 64 อย่างน่าประทับใจ 58% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 133 | 44 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 21.80 | 71.41 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.61 | 16.39 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | Navi 32 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 25 สิงหาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $449 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7700 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RX Vega 64 อยู่ 228%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 3456 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1247 MHz | 1435 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1546 MHz | 2544 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 28,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 245 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 395.8 | 549.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.66 TFLOPS | 35.17 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 256 | 216 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 54 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 279 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 945 MHz | 2250 MHz |
483.8 จีบี/s | 432.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 119
−58%
| 188
+58%
|
1440p | 82
−24.4%
| 102
+24.4%
|
4K | 54
−5.6%
| 57
+5.6%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.19
−75.6%
| 2.39
+75.6%
|
1440p | 6.09
−38.2%
| 4.40
+38.2%
|
4K | 9.24
−17.3%
| 7.88
+17.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 100−110
−162%
|
265
+162%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−132%
|
176
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−147%
|
193
+147%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 100−110
−97%
|
199
+97%
|
Battlefield 5 | 161
+1.9%
|
150−160
−1.9%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−90.8%
|
145
+90.8%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−103%
|
158
+103%
|
Far Cry 5 | 110
−70.9%
|
188
+70.9%
|
Fortnite | 150−160
−57.2%
|
230−240
+57.2%
|
Forza Horizon 4 | 167
−66.5%
|
278
+66.5%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
−59%
|
150−160
+59%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−29.2%
|
170−180
+29.2%
|
Valorant | 315
+6.4%
|
290−300
−6.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 100−110
−17.8%
|
119
+17.8%
|
Battlefield 5 | 146
−8.2%
|
150−160
+8.2%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−59.2%
|
121
+59.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.4%
|
270−280
+0.4%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−69.2%
|
132
+69.2%
|
Dota 2 | 150
−53.3%
|
230−240
+53.3%
|
Far Cry 5 | 104
−74%
|
181
+74%
|
Fortnite | 150−160
−57.2%
|
230−240
+57.2%
|
Forza Horizon 4 | 158
−72.2%
|
272
+72.2%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
−59%
|
150−160
+59%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
−41.9%
|
166
+41.9%
|
Metro Exodus | 73
−108%
|
152
+108%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−29.2%
|
170−180
+29.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 132
−123%
|
295
+123%
|
Valorant | 293
−1%
|
290−300
+1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 139
−13.7%
|
150−160
+13.7%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−44.7%
|
110
+44.7%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−56.4%
|
122
+56.4%
|
Dota 2 | 138
−52.2%
|
210−220
+52.2%
|
Far Cry 5 | 98
−70.4%
|
167
+70.4%
|
Forza Horizon 4 | 128
−80.5%
|
231
+80.5%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
−50%
|
150−160
+50%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−29.2%
|
170−180
+29.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
−118%
|
168
+118%
|
Valorant | 140
−111%
|
290−300
+111%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 150−160
−57.2%
|
230−240
+57.2%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−60.7%
|
45−50
+60.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
−63.8%
|
350−400
+63.8%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
−54.4%
|
105
+54.4%
|
Metro Exodus | 46
−95.7%
|
90
+95.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 263
−26.6%
|
300−350
+26.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−46.7%
|
130−140
+46.7%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−111%
|
80
+111%
|
Far Cry 5 | 81
−93.8%
|
157
+93.8%
|
Forza Horizon 4 | 98
−101%
|
197
+101%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−55.7%
|
95−100
+55.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
−93.5%
|
120
+93.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 85−90
−70.5%
|
150−160
+70.5%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 27−30
−64.3%
|
45−50
+64.3%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−93.8%
|
30−35
+93.8%
|
Grand Theft Auto V | 70−75
−57.7%
|
112
+57.7%
|
Metro Exodus | 46
−23.9%
|
57
+23.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
−85.4%
|
89
+85.4%
|
Valorant | 205
−50.2%
|
300−350
+50.2%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 59
−54.2%
|
90−95
+54.2%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+0%
|
16
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−112%
|
36
+112%
|
Dota 2 | 96
−56.3%
|
150−160
+56.3%
|
Far Cry 5 | 44
−86.4%
|
82
+86.4%
|
Forza Horizon 4 | 66
−103%
|
134
+103%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−52.8%
|
55−60
+52.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−119%
|
90−95
+119%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−88.1%
|
75−80
+88.1%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 64 และ RX 7700 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7700 XT เร็วกว่า 58% ในความละเอียด 1080p
- RX 7700 XT เร็วกว่า 24% ในความละเอียด 1440p
- RX 7700 XT เร็วกว่า 6% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX Vega 64 เร็วกว่า 6%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7700 XT เร็วกว่า 162%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RX 7700 XT เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (93%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 36.72 | 58.01 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 สิงหาคม 2017 | 25 สิงหาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 245 วัตต์ |
RX 7700 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 58% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 20.4%
Radeon RX 7700 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 64 ในการทดสอบประสิทธิภาพ