Radeon RX Vega 64 เทียบกับ RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 และ Radeon RX Vega 64 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 64 อย่างปานกลาง 17% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 85 | 129 |
จัดอันดับตามความนิยม | 74 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 93.24 | 22.20 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.04 | 8.65 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2024) | GCN 5.0 (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | Vega 10 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 7 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX Vega 64 อยู่ 320%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 4096 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 1247 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 1546 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 12,500 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 295 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 395.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 12.66 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 128 | 256 |
Ray Tracing Cores | 32 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 204 mm | 279 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | HBM2 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 2048 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 945 MHz |
288.0 จีบี/s | 483.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.1.125 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 143
+21.2%
| 118
−21.2%
|
1440p | 67
−19.4%
| 80
+19.4%
|
4K | 37
−40.5%
| 52
+40.5%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.88
+125%
| 4.23
−125%
|
1440p | 4.01
+55.4%
| 6.24
−55.4%
|
4K | 7.27
+32%
| 9.60
−32%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 135
+77.6%
|
75−80
−77.6%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+87.3%
|
75−80
−87.3%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 100−110
+32.9%
|
82
−32.9%
|
Counter-Strike 2 | 108
+42.1%
|
75−80
−42.1%
|
Cyberpunk 2077 | 59
+73.5%
|
34
−73.5%
|
Forza Horizon 4 | 284
+40.6%
|
202
−40.6%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+15.8%
|
95−100
−15.8%
|
Metro Exodus | 161
+53.3%
|
105
−53.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 80−85
−39.8%
|
116
+39.8%
|
Valorant | 170−180
−4.6%
|
182
+4.6%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 100−110
−59.6%
|
174
+59.6%
|
Counter-Strike 2 | 90
+18.4%
|
75−80
−18.4%
|
Cyberpunk 2077 | 50
+85.2%
|
27
−85.2%
|
Dota 2 | 150
+200%
|
50
−200%
|
Far Cry 5 | 100−110
+62.9%
|
62
−62.9%
|
Fortnite | 180−190
+48.8%
|
123
−48.8%
|
Forza Horizon 4 | 230
+40.2%
|
164
−40.2%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+15.8%
|
95−100
−15.8%
|
Grand Theft Auto V | 150
+28.2%
|
110−120
−28.2%
|
Metro Exodus | 119
+50.6%
|
79
−50.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 200−210
+5.6%
|
190−200
−5.6%
|
Red Dead Redemption 2 | 80−85
+45.6%
|
57
−45.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
+20%
|
130−140
−20%
|
Valorant | 170−180
+89.1%
|
92
−89.1%
|
World of Tanks | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+51.4%
|
72
−51.4%
|
Counter-Strike 2 | 81
+6.6%
|
75−80
−6.6%
|
Cyberpunk 2077 | 45
+87.5%
|
24
−87.5%
|
Far Cry 5 | 100−110
+7.4%
|
90−95
−7.4%
|
Forza Horizon 4 | 199
+39.2%
|
143
−39.2%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+15.8%
|
95−100
−15.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 200−210
+5.6%
|
190−200
−5.6%
|
Valorant | 170−180
+24.3%
|
140
−24.3%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 77
+13.2%
|
65−70
−13.2%
|
Grand Theft Auto V | 77
+13.2%
|
65−70
−13.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 40−45
+18.9%
|
37
−18.9%
|
World of Tanks | 270−280
+16.2%
|
230−240
−16.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
+10%
|
70−75
−10%
|
Counter-Strike 2 | 51
+41.7%
|
35−40
−41.7%
|
Cyberpunk 2077 | 28
+86.7%
|
15
−86.7%
|
Far Cry 5 | 130−140
+16.8%
|
110−120
−16.8%
|
Forza Horizon 4 | 129
+29%
|
100
−29%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
+19.7%
|
60−65
−19.7%
|
Metro Exodus | 118
+49.4%
|
79
−49.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+36.5%
|
60−65
−36.5%
|
Valorant | 140−150
+48.4%
|
95
−48.4%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 22
−72.7%
|
35−40
+72.7%
|
Dota 2 | 82
+15.5%
|
70−75
−15.5%
|
Grand Theft Auto V | 82
+15.5%
|
70−75
−15.5%
|
Metro Exodus | 38
−21.1%
|
46
+21.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
+19.3%
|
110−120
−19.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 27−30
+20.8%
|
24
−20.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 82
+15.5%
|
70−75
−15.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
+8.5%
|
47
−8.5%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+21.1%
|
35−40
−21.1%
|
Cyberpunk 2077 | 12
+71.4%
|
7
−71.4%
|
Far Cry 5 | 65−70
+22.2%
|
50−55
−22.2%
|
Fortnite | 60−65
+28%
|
50
−28%
|
Forza Horizon 4 | 69
+16.9%
|
59
−16.9%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+23.5%
|
30−35
−23.5%
|
Valorant | 75−80
+55.1%
|
49
−55.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 138
+0%
|
138
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 96
+0%
|
96
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ RX Vega 64 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 21% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 19% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 41% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 200%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 64 เร็วกว่า 73%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 55การทดสอบ (86%)
- RX Vega 64 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 43.20 | 37.03 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 7 สิงหาคม 2017 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 295 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 16.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 78.8%
Radeon RX 7600 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 64 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ