GeForce RTX 4060 เทียบกับ Radeon RX Vega 64
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 64 และ GeForce RTX 4060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4060 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 64 อย่างมหาศาล 39% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 129 | 53 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 2 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.20 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.66 | 30.88 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | AD107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX Vega 64 อยู่ 350%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1247 MHz | 1830 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1546 MHz | 2460 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 18,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 Watt | 115 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 395.8 | 236.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.66 TFLOPS | 15.11 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 256 | 96 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 96 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 279 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 945 MHz | 2125 MHz |
483.8 จีบี/s | 272.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 118
−16.1%
| 137
+16.1%
|
1440p | 80
+15.9%
| 69
−15.9%
|
4K | 52
+30%
| 40
−30%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.23
−93.8%
| 2.18
+93.8%
|
1440p | 6.24
−43.9%
| 4.33
+43.9%
|
4K | 9.60
−28.4%
| 7.48
+28.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 75−80
−77.6%
|
135
+77.6%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−75.9%
|
139
+75.9%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 82
−41.5%
|
110−120
+41.5%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−43.4%
|
109
+43.4%
|
Cyberpunk 2077 | 34
−58.8%
|
54
+58.8%
|
Forza Horizon 4 | 202
−34.7%
|
272
+34.7%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−36.8%
|
130−140
+36.8%
|
Metro Exodus | 105
−57.1%
|
165
+57.1%
|
Red Dead Redemption 2 | 116
+20.8%
|
95−100
−20.8%
|
Valorant | 182
−19.2%
|
210−220
+19.2%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 174
+50%
|
110−120
−50%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−19.7%
|
91
+19.7%
|
Cyberpunk 2077 | 27
−66.7%
|
45
+66.7%
|
Dota 2 | 50
−210%
|
155
+210%
|
Far Cry 5 | 62
−140%
|
149
+140%
|
Fortnite | 123
−69.1%
|
200−210
+69.1%
|
Forza Horizon 4 | 164
−32.3%
|
217
+32.3%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−36.8%
|
130−140
+36.8%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
−35%
|
158
+35%
|
Metro Exodus | 79
−49.4%
|
118
+49.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 190−200
−9.7%
|
210−220
+9.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 57
−68.4%
|
95−100
+68.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 130−140
−33.8%
|
170−180
+33.8%
|
Valorant | 92
−136%
|
210−220
+136%
|
World of Tanks | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 72
−61.1%
|
110−120
+61.1%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
+0%
|
76
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−66.7%
|
40
+66.7%
|
Dota 2 | 138
−37.7%
|
190−200
+37.7%
|
Far Cry 5 | 90−95
−17%
|
110−120
+17%
|
Forza Horizon 4 | 143
−32.9%
|
190
+32.9%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−36.8%
|
130−140
+36.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 190−200
−9.7%
|
210−220
+9.7%
|
Valorant | 140
−55%
|
210−220
+55%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 65−70
−32.4%
|
90
+32.4%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
−32.4%
|
90
+32.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 37
−51.4%
|
55−60
+51.4%
|
World of Tanks | 230−240
−40.4%
|
300−350
+40.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
−20%
|
80−85
+20%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−27.8%
|
46
+27.8%
|
Cyberpunk 2077 | 15
−60%
|
24
+60%
|
Far Cry 5 | 110−120
−33.6%
|
150−160
+33.6%
|
Forza Horizon 4 | 100
−29%
|
129
+29%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−47.5%
|
90−95
+47.5%
|
Metro Exodus | 79
−40.5%
|
111
+40.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
−58.7%
|
100−105
+58.7%
|
Valorant | 95
−94.7%
|
180−190
+94.7%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−52.6%
|
55−60
+52.6%
|
Dota 2 | 70−75
−25.4%
|
89
+25.4%
|
Grand Theft Auto V | 70−75
−25.4%
|
89
+25.4%
|
Metro Exodus | 46
+21.1%
|
38
−21.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−48.7%
|
170−180
+48.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 24
−50%
|
35−40
+50%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70−75
−25.4%
|
89
+25.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 47
−36.2%
|
60−65
+36.2%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−52.6%
|
55−60
+52.6%
|
Cyberpunk 2077 | 7
−42.9%
|
10
+42.9%
|
Dota 2 | 96
−35.4%
|
130−140
+35.4%
|
Far Cry 5 | 50−55
−61.1%
|
85−90
+61.1%
|
Fortnite | 50
−66%
|
80−85
+66%
|
Forza Horizon 4 | 59
−18.6%
|
70
+18.6%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−55.9%
|
50−55
+55.9%
|
Valorant | 49
−108%
|
100−110
+108%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 64 และ RTX 4060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4060 เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 64 เร็วกว่า 30% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 64 เร็วกว่า 50%
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4060 เร็วกว่า 210%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 64 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 4060 เหนือกว่าใน 56การทดสอบ (90%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 37.03 | 51.50 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 สิงหาคม 2017 | 18 พฤษภาคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 295 วัตต์ | 115 วัตต์ |
RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 39.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 156.5%
GeForce RTX 4060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 64 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ