GeForce GTX 1650 เทียบกับ Radeon R9 Nano
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon R9 Nano และ GeForce GTX 1650 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
R9 Nano มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 เล็กน้อย 8% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 307 | 323 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 6 |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 4.76 | 28.18 |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.90 | 19.26 |
| สถาปัตยกรรม | GCN 3.0 (2014−2019) | Turing (2018−2022) |
| ชื่อรหัส GPU | Fiji | TU117 |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
| การออกแบบ | reference | ไม่มีข้อมูล |
| วันที่วางจำหน่าย | 27 สิงหาคม 2015 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $649 | $149 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1650 มีความคุ้มค่ามากกว่า R9 Nano อยู่ 492%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 896 |
| หน่วยประมวลผลคอมพิวต์ | 64 | ไม่มีข้อมูล |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | ไม่มีข้อมูล | 1485 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1000 MHz | 1665 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 8,900 million | 4,700 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 175 Watt | 75 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 256.0 | 93.24 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.192 TFLOPS | 2.984 TFLOPS |
| ROPs | 64 | 32 |
| TMUs | 256 | 56 |
| L1 Cache | 1 เอ็มบี | 896 เคบี |
| L2 Cache | 2 เอ็มบี | 1024 เคบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| การรองรับบัส | PCIe 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
| ความยาว | 152 mm | 229 mm |
| ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
| บริดจ์เลสครอสไฟร์ | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | High Bandwidth Memory (HBM) | GDDR5 |
| หน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM) | + | ไม่มีข้อมูล |
| จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 4 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 4096 Bit | 128 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 500 MHz | 2000 MHz |
| 512 จีบี/s | 128.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort |
| Eyefinity | + | - |
| จำนวนจอ Eyefinity | 6 | ไม่มีข้อมูล |
| HDMI | + | + |
| รองรับ DisplayPort | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| AppAcceleration | + | - |
| CrossFire | + | - |
| FRTC | + | - |
| FreeSync | + | - |
| HD3D | + | - |
| LiquidVR | + | - |
| PowerTune | + | - |
| TressFX | + | - |
| TrueAudio | + | - |
| ZeroCore | + | - |
| VCE | + | - |
| เสียง DDMA | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | DirectX® 12 | 12 (12_1) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.3 | 6.5 |
| OpenGL | 4.5 | 4.6 |
| OpenCL | 2.0 | 1.2 |
| Vulkan | + | 1.2.131 |
| Mantle | + | - |
| CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 91
+42.2%
| 64
−42.2%
|
| 1440p | 40−45
+5.3%
| 38
−5.3%
|
| 4K | 46
+91.7%
| 24
−91.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 7.13
−206%
| 2.33
+206%
|
| 1440p | 16.23
−314%
| 3.92
+314%
|
| 4K | 14.11
−127%
| 6.21
+127%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 110−120
+8.3%
|
100−110
−8.3%
|
| Cyberpunk 2077 | 40−45
+7.3%
|
40−45
−7.3%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 85−90
+39.3%
|
61
−39.3%
|
| Counter-Strike 2 | 110−120
+8.3%
|
100−110
−8.3%
|
| Cyberpunk 2077 | 40−45
+7.3%
|
40−45
−7.3%
|
| Escape from Tarkov | 80−85
+1.2%
|
81
−1.2%
|
| Far Cry 5 | 65−70
−3%
|
69
+3%
|
| Fortnite | 100−110
−97.2%
|
211
+97.2%
|
| Forza Horizon 4 | 80−85
−8.4%
|
90
+8.4%
|
| Forza Horizon 5 | 65−70
−12.3%
|
73
+12.3%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−12.5%
|
90
+12.5%
|
| Valorant | 150−160
−93.4%
|
292
+93.4%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 85−90
+60.4%
|
53
−60.4%
|
| Counter-Strike 2 | 110−120
+8.3%
|
100−110
−8.3%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
+4.3%
|
230−240
−4.3%
|
| Cyberpunk 2077 | 40−45
+7.3%
|
40−45
−7.3%
|
| Dota 2 | 110−120
+17.5%
|
97
−17.5%
|
| Escape from Tarkov | 80−85
+10.8%
|
74
−10.8%
|
| Far Cry 5 | 65−70
+6.3%
|
63
−6.3%
|
| Fortnite | 100−110
+25.9%
|
85
−25.9%
|
| Forza Horizon 4 | 80−85
+0%
|
83
+0%
|
| Forza Horizon 5 | 65−70
+4.8%
|
62
−4.8%
|
| Grand Theft Auto V | 75−80
−5.2%
|
81
+5.2%
|
| Metro Exodus | 45−50
+28.6%
|
35
−28.6%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−7.5%
|
86
+7.5%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−20.3%
|
71
+20.3%
|
| Valorant | 150−160
−72.2%
|
260
+72.2%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 85−90
+66.7%
|
51
−66.7%
|
| Cyberpunk 2077 | 40−45
+7.3%
|
40−45
−7.3%
|
| Dota 2 | 110−120
+23.9%
|
92
−23.9%
|
| Escape from Tarkov | 80−85
+36.7%
|
60
−36.7%
|
| Far Cry 5 | 65−70
+13.6%
|
59
−13.6%
|
| Forza Horizon 4 | 80−85
+27.7%
|
65
−27.7%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
+21.2%
|
66
−21.2%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 47
+14.6%
|
41
−14.6%
|
| Valorant | 150−160
+116%
|
70
−116%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 100−110
+75.4%
|
61
−75.4%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 40−45
+10.3%
|
35−40
−10.3%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
+7.2%
|
130−140
−7.2%
|
| Grand Theft Auto V | 35−40
−8.1%
|
40
+8.1%
|
| Metro Exodus | 27−30
+35%
|
20
−35%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+1.8%
|
170−180
−1.8%
|
| Valorant | 180−190
+5.6%
|
177
−5.6%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 55−60
+51.3%
|
39
−51.3%
|
| Cyberpunk 2077 | 20−22
+11.1%
|
18−20
−11.1%
|
| Escape from Tarkov | 45−50
+18.4%
|
38
−18.4%
|
| Far Cry 5 | 45−50
+17.5%
|
40
−17.5%
|
| Forza Horizon 4 | 50−55
+13%
|
46
−13%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+3.2%
|
31
−3.2%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 45−50
+14.3%
|
42
−14.3%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 18−20
+11.8%
|
16−18
−11.8%
|
| Grand Theft Auto V | 35−40
+15.2%
|
33
−15.2%
|
| Metro Exodus | 16−18
+41.7%
|
12
−41.7%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 35
+34.6%
|
26
−34.6%
|
| Valorant | 110−120
+43.4%
|
83
−43.4%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 30−35
+52.4%
|
21
−52.4%
|
| Counter-Strike 2 | 18−20
+11.8%
|
16−18
−11.8%
|
| Cyberpunk 2077 | 8−9
+0%
|
8−9
+0%
|
| Dota 2 | 70−75
+18.6%
|
59
−18.6%
|
| Escape from Tarkov | 21−24
+10.5%
|
19
−10.5%
|
| Far Cry 5 | 21−24
+21.1%
|
19
−21.1%
|
| Forza Horizon 4 | 35−40
+20%
|
30
−20%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−23.8%
|
26
+23.8%
|
4K
Epic
| Fortnite | 21−24
+100%
|
11
−100%
|
นี่คือวิธีที่ R9 Nano และ GTX 1650 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- R9 Nano เร็วกว่า 42% ในความละเอียด 1080p
- R9 Nano เร็วกว่า 5% ในความละเอียด 1440p
- R9 Nano เร็วกว่า 92% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ R9 Nano เร็วกว่า 116%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GTX 1650 เร็วกว่า 97%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- R9 Nano เหนือกว่าใน 50การทดสอบ (78%)
- GTX 1650 เหนือกว่าใน 12การทดสอบ (19%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 20.29 | 18.81 |
| ความใหม่ล่าสุด | 27 สิงหาคม 2015 | 23 เมษายน 2019 |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 175 วัตต์ | 75 วัตต์ |
R9 Nano มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 7.9%
ในทางกลับกัน GTX 1650 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 133.3%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง Radeon R9 Nano และ GeForce GTX 1650 ได้อย่างชัดเจน
