GeForce MX130 เทียบกับ Radeon R9 Nano
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon R9 Nano กับ GeForce MX130 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
R9 Nano มีประสิทธิภาพดีกว่า MX130 อย่างมหาศาลถึง 371% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 307 | 712 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 4.76 | ไม่มีข้อมูล |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.90 | 11.03 |
| สถาปัตยกรรม | GCN 3.0 (2014−2019) | Maxwell (2014−2017) |
| ชื่อรหัส GPU | Fiji | GM108 |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
| การออกแบบ | reference | ไม่มีข้อมูล |
| วันที่วางจำหน่าย | 27 สิงหาคม 2015 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) | 17 พฤศจิกายน 2017 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $649 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 384 |
| หน่วยประมวลผลคอมพิวต์ | 64 | ไม่มีข้อมูล |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | ไม่มีข้อมูล | 1122 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1000 MHz | 1242 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 8,900 million | ไม่มีข้อมูล |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 28 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 175 Watt | 30 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 256.0 | 29.81 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 8.192 TFLOPS | 0.9539 TFLOPS |
| ROPs | 64 | 8 |
| TMUs | 256 | 24 |
| L1 Cache | 1 เอ็มบี | 192 เคบี |
| L2 Cache | 2 เอ็มบี | 1024 เคบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
| การรองรับบัส | PCIe 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
| ความยาว | 152 mm | ไม่มีข้อมูล |
| ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
| บริดจ์เลสครอสไฟร์ | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | High Bandwidth Memory (HBM) | GDDR5 |
| หน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM) | + | ไม่มีข้อมูล |
| จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 4096 Bit | 64 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 500 MHz | 1253 MHz |
| 512 จีบี/s | 40.1 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
| Eyefinity | + | - |
| จำนวนจอ Eyefinity | 6 | ไม่มีข้อมูล |
| HDMI | + | - |
| รองรับ DisplayPort | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| AppAcceleration | + | - |
| CrossFire | + | - |
| FRTC | + | - |
| FreeSync | + | - |
| HD3D | + | - |
| LiquidVR | + | - |
| PowerTune | + | - |
| TressFX | + | - |
| TrueAudio | + | - |
| ZeroCore | + | - |
| VCE | + | - |
| เสียง DDMA | + | ไม่มีข้อมูล |
| Optimus | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | DirectX® 12 | 12 (11_0) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.3 | 5.1 |
| OpenGL | 4.5 | 4.6 |
| OpenCL | 2.0 | 1.2 |
| Vulkan | + | 1.1.126 |
| Mantle | + | - |
| CUDA | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 91
+435%
| 17
−435%
|
| 4K | 46
+411%
| 9−10
−411%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 7.13 | ไม่มีข้อมูล |
| 4K | 14.11 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 110−120
+337%
|
27
−337%
|
| Cyberpunk 2077 | 40−45
+1000%
|
4
−1000%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 85−90
+400%
|
16−18
−400%
|
| Counter-Strike 2 | 110−120
+490%
|
20
−490%
|
| Cyberpunk 2077 | 40−45
+389%
|
9−10
−389%
|
| Escape from Tarkov | 80−85
+382%
|
16−18
−382%
|
| Far Cry 5 | 65−70
+379%
|
14
−379%
|
| Fortnite | 100−110
+234%
|
32
−234%
|
| Forza Horizon 4 | 80−85
+295%
|
21−24
−295%
|
| Forza Horizon 5 | 65−70
+333%
|
15
−333%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
+248%
|
23
−248%
|
| Valorant | 150−160
+165%
|
55−60
−165%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 85−90
+400%
|
16−18
−400%
|
| Counter-Strike 2 | 110−120
+883%
|
12
−883%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
+213%
|
75−80
−213%
|
| Cyberpunk 2077 | 40−45
+389%
|
9−10
−389%
|
| Dota 2 | 110−120
+226%
|
35
−226%
|
| Escape from Tarkov | 80−85
+382%
|
16−18
−382%
|
| Far Cry 5 | 65−70
+415%
|
13
−415%
|
| Fortnite | 100−110
+346%
|
24
−346%
|
| Forza Horizon 4 | 80−85
+295%
|
21−24
−295%
|
| Forza Horizon 5 | 65−70
+442%
|
12−14
−442%
|
| Grand Theft Auto V | 75−80
+413%
|
15
−413%
|
| Metro Exodus | 45−50
+1400%
|
3
−1400%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
+281%
|
21
−281%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+321%
|
14
−321%
|
| Valorant | 150−160
+165%
|
55−60
−165%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 85−90
+400%
|
16−18
−400%
|
| Cyberpunk 2077 | 40−45
+389%
|
9−10
−389%
|
| Dota 2 | 110−120
+307%
|
28
−307%
|
| Escape from Tarkov | 80−85
+382%
|
16−18
−382%
|
| Far Cry 5 | 65−70
+458%
|
12
−458%
|
| Forza Horizon 4 | 80−85
+295%
|
21−24
−295%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
+471%
|
14
−471%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 47
+571%
|
7
−571%
|
| Valorant | 150−160
+165%
|
55−60
−165%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 100−110
+569%
|
16
−569%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 40−45
+378%
|
9−10
−378%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
+352%
|
30−35
−352%
|
| Grand Theft Auto V | 35−40
+1133%
|
3−4
−1133%
|
| Metro Exodus | 27−30
+800%
|
3−4
−800%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+409%
|
30−35
−409%
|
| Valorant | 180−190
+298%
|
45−50
−298%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 55−60
+2850%
|
2−3
−2850%
|
| Cyberpunk 2077 | 20−22
+567%
|
3−4
−567%
|
| Escape from Tarkov | 45−50
+463%
|
8−9
−463%
|
| Far Cry 5 | 45−50
+488%
|
8−9
−488%
|
| Forza Horizon 4 | 50−55
+420%
|
10−11
−420%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+433%
|
6−7
−433%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 45−50
+500%
|
8−9
−500%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 18−20
+375%
|
4−5
−375%
|
| Grand Theft Auto V | 35−40
+138%
|
16−18
−138%
|
| Metro Exodus | 16−18
+467%
|
3−4
−467%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 35
+400%
|
7−8
−400%
|
| Valorant | 110−120
+441%
|
21−24
−441%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 30−35
+3100%
|
1−2
−3100%
|
| Counter-Strike 2 | 18−20
+375%
|
4−5
−375%
|
| Cyberpunk 2077 | 8−9
+700%
|
1−2
−700%
|
| Dota 2 | 70−75
+400%
|
14−16
−400%
|
| Escape from Tarkov | 21−24
+600%
|
3−4
−600%
|
| Far Cry 5 | 21−24
+667%
|
3−4
−667%
|
| Forza Horizon 4 | 35−40
+500%
|
6−7
−500%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
+320%
|
5−6
−320%
|
4K
Epic
| Fortnite | 21−24
+340%
|
5−6
−340%
|
นี่คือวิธีที่ R9 Nano และ GeForce MX130 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- R9 Nano เร็วกว่า 435% ในความละเอียด 1080p
- R9 Nano เร็วกว่า 411% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ R9 Nano เร็วกว่า 3100%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น R9 Nano เหนือกว่า GeForce MX130 ในการทดสอบทั้ง 60 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 20.29 | 4.31 |
| ความใหม่ล่าสุด | 27 สิงหาคม 2015 | 17 พฤศจิกายน 2017 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 175 วัตต์ | 30 วัตต์ |
R9 Nano มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 370.8% และ
ในทางกลับกัน GeForce MX130 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 483.3%
Radeon R9 Nano เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX130 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon R9 Nano เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce MX130 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก
