Radeon VII เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ Radeon VII โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
TITAN RTX มีประสิทธิภาพดีกว่า VII อย่างปานกลาง 15% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 72 | 101 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.12 | 24.36 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.91 | 9.83 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | GCN 5.1 (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | Vega 20 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 7 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
Radeon VII มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 1049%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1400 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1750 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 13,230 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 295 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 420.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 13.44 TFLOPS |
ROPs | 96 | 64 |
TMUs | 288 | 240 |
Tensor Cores | 576 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 72 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 280 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | HBM2 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 4096 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1000 MHz |
672.0 จีบี/s | 1024 จีบี/s |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.0b, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 161
+34.2%
| 120
−34.2%
|
1440p | 102
+37.8%
| 74
−37.8%
|
4K | 73
+28.1%
| 57
−28.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.52
−166%
| 5.83
+166%
|
1440p | 24.50
−159%
| 9.45
+159%
|
4K | 34.23
−179%
| 12.26
+179%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 353
+58.3%
|
220−230
−58.3%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−16.5%
|
90−95
+16.5%
|
Hogwarts Legacy | 167
+79.6%
|
90−95
−79.6%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 163
+19.9%
|
136
−19.9%
|
Counter-Strike 2 | 342
+53.4%
|
220−230
−53.4%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−16.5%
|
90−95
+16.5%
|
Far Cry 5 | 165
+66.7%
|
99
−66.7%
|
Fortnite | 169
−15.4%
|
195
+15.4%
|
Forza Horizon 4 | 187
+14.7%
|
163
−14.7%
|
Forza Horizon 5 | 168
+37.7%
|
120−130
−37.7%
|
Hogwarts Legacy | 145
+55.9%
|
90−95
−55.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+28.7%
|
157
−28.7%
|
Valorant | 348
+52%
|
220−230
−52%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 164
+19.7%
|
137
−19.7%
|
Counter-Strike 2 | 270
+21.1%
|
220−230
−21.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−16.5%
|
90−95
+16.5%
|
Dota 2 | 155
−3.2%
|
160
+3.2%
|
Far Cry 5 | 156
+64.2%
|
95
−64.2%
|
Fortnite | 176
+14.3%
|
154
−14.3%
|
Forza Horizon 4 | 186
+18.5%
|
157
−18.5%
|
Forza Horizon 5 | 153
+25.4%
|
120−130
−25.4%
|
Grand Theft Auto V | 152
+36.9%
|
111
−36.9%
|
Hogwarts Legacy | 117
+25.8%
|
90−95
−25.8%
|
Metro Exodus | 134
+52.3%
|
88
−52.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
+3.2%
|
158
−3.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 267
+92.1%
|
139
−92.1%
|
Valorant | 336
+46.7%
|
220−230
−46.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160
+26%
|
127
−26%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−17.9%
|
90−95
+17.9%
|
Dota 2 | 148
+0.7%
|
147
−0.7%
|
Far Cry 5 | 146
+60.4%
|
91
−60.4%
|
Forza Horizon 4 | 175
+34.6%
|
130
−34.6%
|
Hogwarts Legacy | 94
+1.1%
|
90−95
−1.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
−5.1%
|
143
+5.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
+85.3%
|
75
−85.3%
|
Valorant | 236
+19.8%
|
197
−19.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 134
+17.5%
|
114
−17.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 157
+52.4%
|
100−110
−52.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
+16.1%
|
270−280
−16.1%
|
Grand Theft Auto V | 114
+165%
|
43
−165%
|
Metro Exodus | 85
+51.8%
|
56
−51.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 307
+18.1%
|
260−270
−18.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+12%
|
100−105
−12%
|
Cyberpunk 2077 | 66
+43.5%
|
45−50
−43.5%
|
Far Cry 5 | 134
+38.1%
|
95−100
−38.1%
|
Forza Horizon 4 | 157
+38.9%
|
110−120
−38.9%
|
Hogwarts Legacy | 69
+46.8%
|
45−50
−46.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
+22.1%
|
75−80
−22.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 120−130
+17.1%
|
100−110
−17.1%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45
−4.4%
|
45−50
+4.4%
|
Grand Theft Auto V | 134
+116%
|
62
−116%
|
Hogwarts Legacy | 30−33
+15.4%
|
24−27
−15.4%
|
Metro Exodus | 55
+48.6%
|
37
−48.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
+90.7%
|
54
−90.7%
|
Valorant | 300
+25%
|
240−250
−25%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
+32.9%
|
73
−32.9%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
+19.1%
|
45−50
−19.1%
|
Cyberpunk 2077 | 33
+57.1%
|
21−24
−57.1%
|
Dota 2 | 146
+87.2%
|
78
−87.2%
|
Far Cry 5 | 80
+35.6%
|
59
−35.6%
|
Forza Horizon 4 | 114
+48.1%
|
77
−48.1%
|
Hogwarts Legacy | 38
+46.2%
|
24−27
−46.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+65.5%
|
58
−65.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 74
+68.2%
|
44
−68.2%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ Radeon VII แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เร็วกว่า 34% ในความละเอียด 1080p
- TITAN RTX เร็วกว่า 38% ในความละเอียด 1440p
- TITAN RTX เร็วกว่า 28% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 165%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Radeon VII เร็วกว่า 18%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 56การทดสอบ (85%)
- Radeon VII เหนือกว่าใน 8การทดสอบ (12%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 47.17 | 41.00 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 7 กุมภาพันธ์ 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 295 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 15% และและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 5.4%
ในทางกลับกัน Radeon VII มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 เดือนและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
TITAN RTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon VII ในการทดสอบประสิทธิภาพ