GeForce RTX 3080 12 GB เทียบกับ Radeon RX 6800M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6800M กับ GeForce RTX 3080 12 GB รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3080 12 GB มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6800M อย่างมหาศาลถึง 100% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 151 | 28 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 41.10 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 16.46 | 13.61 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 22 | GA102 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 11 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2560 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2116 MHz | 1260 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2390 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,200 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 145 Watt | 350 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 382.4 | 478.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.24 TFLOPS | 30.64 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 160 | 280 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 280 |
Ray Tracing Cores | 40 | 70 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 285 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1188 MHz |
384.0 จีบี/s | 912.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 107
−70.1%
| 182
+70.1%
|
1440p | 70
−72.9%
| 121
+72.9%
|
4K | 44
−86.4%
| 82
+86.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 4.39 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 6.60 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 9.74 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 154
−28.6%
|
190−200
+28.6%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−134%
|
160−170
+134%
|
Cyberpunk 2077 | 123
−30.1%
|
160−170
+30.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 121
−105%
|
248
+105%
|
Battlefield 5 | 143
−21%
|
170−180
+21%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−156%
|
179
+156%
|
Cyberpunk 2077 | 110
−45.5%
|
160−170
+45.5%
|
Far Cry 5 | 106
−61.3%
|
171
+61.3%
|
Fortnite | 140−150
−107%
|
300−350
+107%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−100%
|
250−260
+100%
|
Forza Horizon 5 | 86
−98.8%
|
171
+98.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−37.2%
|
170−180
+37.2%
|
Valorant | 190−200
−80.4%
|
350−400
+80.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 85
−70.6%
|
145
+70.6%
|
Battlefield 5 | 141
−22.7%
|
170−180
+22.7%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−120%
|
154
+120%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 102
−56.9%
|
160−170
+56.9%
|
Dota 2 | 126
−39.7%
|
176
+39.7%
|
Far Cry 5 | 102
−58.8%
|
162
+58.8%
|
Fortnite | 140−150
−107%
|
300−350
+107%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−100%
|
250−260
+100%
|
Forza Horizon 5 | 120
−32.5%
|
159
+32.5%
|
Grand Theft Auto V | 112
−38.4%
|
155
+38.4%
|
Metro Exodus | 105
−40%
|
147
+40%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−37.2%
|
170−180
+37.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 188
−70.7%
|
321
+70.7%
|
Valorant | 190−200
−80.4%
|
350−400
+80.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 139
−24.5%
|
170−180
+24.5%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−100%
|
140
+100%
|
Cyberpunk 2077 | 98
−63.3%
|
160−170
+63.3%
|
Dota 2 | 115
−40%
|
161
+40%
|
Far Cry 5 | 95
−58.9%
|
151
+58.9%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−100%
|
250−260
+100%
|
Forza Horizon 5 | 81
−97.5%
|
160−170
+97.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−37.2%
|
170−180
+37.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 109
−51.4%
|
165
+51.4%
|
Valorant | 190−200
−80.4%
|
350−400
+80.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−107%
|
300−350
+107%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−120%
|
450−500
+120%
|
Grand Theft Auto V | 84
−54.8%
|
130
+54.8%
|
Metro Exodus | 59
−66.1%
|
98
+66.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−83.9%
|
400−450
+83.9%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130
−23.8%
|
160−170
+23.8%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−85.2%
|
50−55
+85.2%
|
Cyberpunk 2077 | 51
−78.4%
|
90−95
+78.4%
|
Far Cry 5 | 100
−47%
|
147
+47%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−147%
|
210−220
+147%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−93%
|
110−120
+93%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−159%
|
150−160
+159%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80−85
−84.1%
|
150−160
+84.1%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−127%
|
55−60
+127%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−193%
|
40−45
+193%
|
Grand Theft Auto V | 85
−100%
|
170
+100%
|
Metro Exodus | 38
−71.1%
|
65
+71.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60
−120%
|
132
+120%
|
Valorant | 190−200
−69.2%
|
300−350
+69.2%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 82
−42.7%
|
110−120
+42.7%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−53.3%
|
23
+53.3%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−91.3%
|
40−45
+91.3%
|
Dota 2 | 95
−64.2%
|
156
+64.2%
|
Far Cry 5 | 61
−67.2%
|
102
+67.2%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−185%
|
160−170
+185%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−97%
|
65−70
+97%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−146%
|
95−100
+146%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−103%
|
75−80
+103%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
+0%
|
60−65
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6800M และ RTX 3080 12 GB แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 70% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 73% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 86% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 193%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 34.25 | 68.36 |
ความใหม่ล่าสุด | 31 พฤษภาคม 2021 | 11 มกราคม 2022 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 145 วัตต์ | 350 วัตต์ |
RX 6800M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 141.4%
ในทางกลับกัน RTX 3080 12 GB มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 99.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 เดือน
GeForce RTX 3080 12 GB เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6800M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 6800M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 3080 12 GB เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป