GeForce RTX 5060 เทียบกับ Radeon Pro W6800
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro W6800 กับ GeForce RTX 5060 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5060 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro W6800 เล็กน้อย 7% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 71 | 63 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 26.71 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.32 | 26.44 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 21 | GB206 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 8 มิถุนายน 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 19 พฤษภาคม 2025 (เร็ว ๆ นี้) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,249 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า Pro W6800 อยู่ 274%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 3840 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2075 MHz | 2280 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2320 MHz | 2497 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 26,800 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 145 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 556.8 | 299.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 17.82 TFLOPS | 19.18 TFLOPS |
ROPs | 96 | 48 |
TMUs | 240 | 120 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 120 |
Ray Tracing Cores | 60 | 30 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 267 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1750 MHz |
512.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 6x mini-DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.1 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 137
−12.4%
| 154
+12.4%
|
1440p | 116
+48.7%
| 78
−48.7%
|
4K | 84
+61.5%
| 52
−61.5%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 16.42
−746%
| 1.94
+746%
|
1440p | 19.39
−406%
| 3.83
+406%
|
4K | 26.77
−366%
| 5.75
+366%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 250−260
−5%
|
270−280
+5%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−7.8%
|
120−130
+7.8%
|
Dead Island 2 | 220−230
−6.7%
|
230−240
+6.7%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 140−150
−4%
|
150−160
+4%
|
Counter-Strike 2 | 250−260
−5%
|
270−280
+5%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−7.8%
|
120−130
+7.8%
|
Dead Island 2 | 220−230
−6.7%
|
230−240
+6.7%
|
Far Cry 5 | 70
−257%
|
250
+257%
|
Fortnite | 200−210
−9.2%
|
220−230
+9.2%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−7.6%
|
190−200
+7.6%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−6.1%
|
150−160
+6.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.7%
|
170−180
+1.7%
|
Valorant | 260−270
−6.4%
|
280−290
+6.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 140−150
−4%
|
150−160
+4%
|
Counter-Strike 2 | 250−260
−5%
|
270−280
+5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−7.8%
|
120−130
+7.8%
|
Dead Island 2 | 220−230
−6.7%
|
230−240
+6.7%
|
Dota 2 | 99
−1%
|
100−105
+1%
|
Far Cry 5 | 65
−251%
|
228
+251%
|
Fortnite | 200−210
−9.2%
|
220−230
+9.2%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−7.6%
|
190−200
+7.6%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−6.1%
|
150−160
+6.1%
|
Grand Theft Auto V | 121
−25.6%
|
150−160
+25.6%
|
Metro Exodus | 160
+24%
|
120−130
−24%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.7%
|
170−180
+1.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 199
−43.7%
|
286
+43.7%
|
Valorant | 260−270
−6.4%
|
280−290
+6.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 140−150
−4%
|
150−160
+4%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−7.8%
|
120−130
+7.8%
|
Dead Island 2 | 220−230
−6.7%
|
230−240
+6.7%
|
Dota 2 | 86
−4.7%
|
90−95
+4.7%
|
Far Cry 5 | 62
−244%
|
213
+244%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−7.6%
|
190−200
+7.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.7%
|
170−180
+1.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 157
+9.8%
|
143
−9.8%
|
Valorant | 260−270
−6.4%
|
280−290
+6.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 200−210
−9.2%
|
220−230
+9.2%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 130−140
−9.8%
|
140−150
+9.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−8.8%
|
350−400
+8.8%
|
Grand Theft Auto V | 88
−23.9%
|
100−110
+23.9%
|
Metro Exodus | 171
+111%
|
80−85
−111%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−7.4%
|
300−350
+7.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−6.8%
|
120−130
+6.8%
|
Cyberpunk 2077 | 60−65
−9.8%
|
65−70
+9.8%
|
Dead Island 2 | 110−120
−10.9%
|
120−130
+10.9%
|
Far Cry 5 | 64
−127%
|
145
+127%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−9.6%
|
160−170
+9.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−105
−6%
|
106
+6%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−9.1%
|
140−150
+9.1%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
−10%
|
65−70
+10%
|
Dead Island 2 | 45−50
−2%
|
50−55
+2%
|
Grand Theft Auto V | 125
+2.5%
|
120−130
−2.5%
|
Metro Exodus | 55
+7.8%
|
50−55
−7.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 99
+8.8%
|
91
−8.8%
|
Valorant | 280−290
−5.3%
|
300−310
+5.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−8.9%
|
85−90
+8.9%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−10%
|
65−70
+10%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−10.7%
|
30−35
+10.7%
|
Dead Island 2 | 45−50
−8.2%
|
50−55
+8.2%
|
Dota 2 | 94
−6.4%
|
100−105
+6.4%
|
Far Cry 5 | 60
−25%
|
75
+25%
|
Forza Horizon 4 | 100−105
−13%
|
110−120
+13%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
−13.2%
|
85−90
+13.2%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 65−70
−11.8%
|
75−80
+11.8%
|
นี่คือวิธีที่ Pro W6800 และ RTX 5060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1080p
- Pro W6800 เร็วกว่า 49% ในความละเอียด 1440p
- Pro W6800 เร็วกว่า 62% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro W6800 เร็วกว่า 111%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 5060 เร็วกว่า 257%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro W6800 เหนือกว่าใน 6การทดสอบ (10%)
- RTX 5060 เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (87%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 50.19 | 53.76 |
ความใหม่ล่าสุด | 8 มิถุนายน 2021 | 19 พฤษภาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 145 วัตต์ |
Pro W6800 มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 7.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 72.4%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง Radeon Pro W6800 และ GeForce RTX 5060 ได้อย่างชัดเจน
โปรดทราบว่า Radeon Pro W6800 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce RTX 5060 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป