Quadro RTX A6000 เทียบกับ GeForce GTX 1650
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 กับ Quadro RTX A6000 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX A6000 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 อย่างมหาศาลถึง 188% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 286 | 44 |
จัดอันดับตามความนิยม | 3 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 34.45 | 12.70 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.67 | 13.46 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | GA102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 5 ตุลาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $149 | $4,649 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1650 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX A6000 อยู่ 171%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 896 | 10752 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1485 MHz | 1410 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 1800 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 93.24 | 604.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.984 TFLOPS | 38.71 TFLOPS |
ROPs | 32 | 112 |
TMUs | 56 | 336 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 336 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 84 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 8-pin EPS |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 48 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2000 MHz |
128.0 จีบี/s | 768.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 4x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 64
−147%
| 158
+147%
|
1440p | 38
−224%
| 123
+224%
|
4K | 24
−342%
| 106
+342%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.33
+1164%
| 29.42
−1164%
|
1440p | 3.92
+864%
| 37.80
−864%
|
4K | 6.21
+606%
| 43.86
−606%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 110−120
−159%
|
280−290
+159%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−227%
|
130−140
+227%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−228%
|
120−130
+228%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 61
−161%
|
150−160
+161%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−159%
|
280−290
+159%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−227%
|
130−140
+227%
|
Far Cry 5 | 69
+32.7%
|
52
−32.7%
|
Fortnite | 211
−15.2%
|
240−250
+15.2%
|
Forza Horizon 4 | 90
−134%
|
210−220
+134%
|
Forza Horizon 5 | 73
−123%
|
160−170
+123%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−228%
|
120−130
+228%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90
−96.7%
|
170−180
+96.7%
|
Valorant | 292
−2.7%
|
300−310
+2.7%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 53
−200%
|
150−160
+200%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−159%
|
280−290
+159%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
−20.3%
|
270−280
+20.3%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−227%
|
130−140
+227%
|
Dota 2 | 97
−43.3%
|
139
+43.3%
|
Far Cry 5 | 63
+18.9%
|
53
−18.9%
|
Fortnite | 85
−186%
|
240−250
+186%
|
Forza Horizon 4 | 83
−154%
|
210−220
+154%
|
Forza Horizon 5 | 62
−163%
|
160−170
+163%
|
Grand Theft Auto V | 81
−58%
|
128
+58%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−228%
|
120−130
+228%
|
Metro Exodus | 35
−180%
|
98
+180%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 86
−106%
|
170−180
+106%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 71
−332%
|
307
+332%
|
Valorant | 260
−15.4%
|
300−310
+15.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 51
−212%
|
150−160
+212%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
−227%
|
130−140
+227%
|
Dota 2 | 92
−42.4%
|
131
+42.4%
|
Far Cry 5 | 59
+13.5%
|
52
−13.5%
|
Forza Horizon 4 | 65
−225%
|
210−220
+225%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
−228%
|
120−130
+228%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 66
−168%
|
170−180
+168%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 41
−339%
|
180
+339%
|
Valorant | 70
−329%
|
300−310
+329%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 61
−298%
|
240−250
+298%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−295%
|
150−160
+295%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 130−140
−184%
|
350−400
+184%
|
Grand Theft Auto V | 40
−140%
|
96
+140%
|
Metro Exodus | 20
−320%
|
84
+320%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.9%
|
170−180
+2.9%
|
Valorant | 177
−92.1%
|
300−350
+92.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 39
−244%
|
130−140
+244%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−306%
|
70−75
+306%
|
Far Cry 5 | 40
−30%
|
52
+30%
|
Forza Horizon 4 | 46
−278%
|
170−180
+278%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−209%
|
65−70
+209%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 31
−277%
|
110−120
+277%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 42
−257%
|
150−160
+257%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
−318%
|
70−75
+318%
|
Grand Theft Auto V | 33
−370%
|
155
+370%
|
Hogwarts Legacy | 12−14
−177%
|
35−40
+177%
|
Metro Exodus | 12
−483%
|
70
+483%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 26
−462%
|
146
+462%
|
Valorant | 83
−273%
|
300−350
+273%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21
−343%
|
90−95
+343%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−318%
|
70−75
+318%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−325%
|
30−35
+325%
|
Dota 2 | 59
−117%
|
128
+117%
|
Far Cry 5 | 19
−163%
|
50
+163%
|
Forza Horizon 4 | 30
−317%
|
120−130
+317%
|
Hogwarts Legacy | 12−14
−177%
|
35−40
+177%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 26
−269%
|
95−100
+269%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 11
−618%
|
75−80
+618%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 และ RTX A6000 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX A6000 เร็วกว่า 147% ในความละเอียด 1080p
- RTX A6000 เร็วกว่า 224% ในความละเอียด 1440p
- RTX A6000 เร็วกว่า 342% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GTX 1650 เร็วกว่า 33%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ RTX A6000 เร็วกว่า 618%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1650 เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX A6000 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (95%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.64 | 50.89 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 5 ตุลาคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 48 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 300 วัตต์ |
GTX 1650 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RTX A6000 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 188.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
Quadro RTX A6000 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1650 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Quadro RTX A6000 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน