GeForce RTX 2080 เทียบกับ RTX 2070
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2070 และ GeForce RTX 2080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2070 อย่างปานกลาง 16% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 103 | 73 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 29.85 | 26.45 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 16.38 | 15.50 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | TU106 | TU104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 17 ตุลาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2070 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2080 อยู่ 13%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 2944 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1410 MHz | 1515 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1620 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 10,800 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 175 Watt | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 233.3 | 314.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.465 TFLOPS | 10.07 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 144 | 184 |
Tensor Cores | 288 | 368 |
Ray Tracing Cores | 36 | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
448.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 2x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | 7.5 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 mediacal-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - Catia
SPECviewperf 12 - Solidworks
SPECviewperf 12 - Siemens NX
SPECviewperf 12 - Creo
SPECviewperf 12 - Medical
SPECviewperf 12 - Energy
SPECviewperf 12 - specvp12 3dsmax-05
SPECviewperf 12 - 3ds Max
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 จำลองการทำงานกับ 3DS Max โดยรันการทดสอบทั้งหมด 11 ครั้งในสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างแบบจำลองสถาปัตยกรรมและแอนิเมชันสำหรับเกมคอมพิวเตอร์
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 128
−11.7%
| 143
+11.7%
|
1440p | 87
−16.1%
| 101
+16.1%
|
4K | 62
−16.1%
| 72
+16.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.90
+25.4%
| 4.89
−25.4%
|
1440p | 5.74
+20.7%
| 6.92
−20.7%
|
4K | 8.05
+20.6%
| 9.71
−20.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 220−230
−13.2%
|
240−250
+13.2%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−18.7%
|
100−110
+18.7%
|
Hogwarts Legacy | 90−95
−17.8%
|
100−110
+17.8%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 126
−29.4%
|
163
+29.4%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
−13.2%
|
240−250
+13.2%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−18.7%
|
100−110
+18.7%
|
Far Cry 5 | 114
−2.6%
|
117
+2.6%
|
Fortnite | 174
−14.4%
|
199
+14.4%
|
Forza Horizon 4 | 142
−9.9%
|
156
+9.9%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−14%
|
130−140
+14%
|
Hogwarts Legacy | 90−95
−17.8%
|
100−110
+17.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 211
+1%
|
209
−1%
|
Valorant | 258
−1.9%
|
263
+1.9%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 117
−32.5%
|
155
+32.5%
|
Counter-Strike 2 | 220−230
−13.2%
|
240−250
+13.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−18.7%
|
100−110
+18.7%
|
Dota 2 | 138
−8%
|
140−150
+8%
|
Far Cry 5 | 110
−1.8%
|
112
+1.8%
|
Fortnite | 162
−6.8%
|
173
+6.8%
|
Forza Horizon 4 | 135
−13.3%
|
153
+13.3%
|
Forza Horizon 5 | 120−130
−14%
|
130−140
+14%
|
Grand Theft Auto V | 127
−3.1%
|
131
+3.1%
|
Hogwarts Legacy | 90−95
−17.8%
|
100−110
+17.8%
|
Metro Exodus | 78
−15.4%
|
90
+15.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+7.4%
|
188
−7.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 158
−14.6%
|
181
+14.6%
|
Valorant | 248
−2.4%
|
254
+2.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 108
−34.3%
|
145
+34.3%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
−18.7%
|
100−110
+18.7%
|
Dota 2 | 130
−14.6%
|
140−150
+14.6%
|
Far Cry 5 | 104
−1.9%
|
106
+1.9%
|
Forza Horizon 4 | 110
−20%
|
132
+20%
|
Hogwarts Legacy | 90−95
−17.8%
|
100−110
+17.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 147
−15%
|
169
+15%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 87
−21.8%
|
106
+21.8%
|
Valorant | 184
−21.2%
|
223
+21.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 156
+0%
|
156
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 100−110
−21.8%
|
120−130
+21.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 260−270
−17.2%
|
300−350
+17.2%
|
Grand Theft Auto V | 75−80
−19%
|
90−95
+19%
|
Metro Exodus | 50
−20%
|
60
+20%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 243
−1.6%
|
247
+1.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 88
−42%
|
125
+42%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−24.4%
|
55−60
+24.4%
|
Far Cry 5 | 88
−12.5%
|
99
+12.5%
|
Forza Horizon 4 | 93
−26.9%
|
118
+26.9%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
−17.4%
|
50−55
+17.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70−75
−21.9%
|
85−90
+21.9%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 109
−17.4%
|
128
+17.4%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45−50
−19.6%
|
55−60
+19.6%
|
Grand Theft Auto V | 86
−24.4%
|
107
+24.4%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
−16%
|
27−30
+16%
|
Metro Exodus | 32
−21.9%
|
39
+21.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 63
−20.6%
|
76
+20.6%
|
Valorant | 231
−1.3%
|
234
+1.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
−38.2%
|
76
+38.2%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
−19.6%
|
55−60
+19.6%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−23.8%
|
24−27
+23.8%
|
Dota 2 | 116
−5.2%
|
120−130
+5.2%
|
Far Cry 5 | 49
−20.4%
|
59
+20.4%
|
Forza Horizon 4 | 63
−28.6%
|
81
+28.6%
|
Hogwarts Legacy | 24−27
−16%
|
27−30
+16%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 61
−13.1%
|
69
+13.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 53
−22.6%
|
65
+22.6%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2070 และ RTX 2080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2070 เร็วกว่า 7%
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 เร็วกว่า 42%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 2080 เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (92%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 36.11 | 41.98 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 175 วัตต์ | 215 วัตต์ |
RTX 2070 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 22.9%
ในทางกลับกัน RTX 2080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 16.3%
GeForce RTX 2080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2070 ในการทดสอบประสิทธิภาพ