GeForce RTX 2060 Super เทียบกับ RTX 2080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 และ GeForce RTX 2060 Super โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2060 Super อย่างปานกลาง 13% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 94 | 122 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 15 |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.17 | 38.18 |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.95 | 17.29 |
| สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Turing (2018−2022) |
| ชื่อรหัส GPU | TU104 | TU106 |
| ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $399 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2060 Super มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2080 อยู่ 72%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2944 | 2176 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1515 MHz | 1470 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1710 MHz | 1650 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | 10,800 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 12 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 215 Watt | 175 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 314.6 | 224.4 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.07 TFLOPS | 7.181 TFLOPS |
| ROPs | 64 | 64 |
| TMUs | 184 | 136 |
| Tensor Cores | 368 | 272 |
| Ray Tracing Cores | 46 | 34 |
| L1 Cache | 2.9 เอ็มบี | 2.1 เอ็มบี |
| L2 Cache | 4 เอ็มบี | 4 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
| ความยาว | 267 mm | 229 mm |
| ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
| 448.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.0, 3x DisplayPort 1.4a, 1x USB Type-C | 1x DVI, 1x HDMI 2.0, 2x DisplayPort 1.4a, 1x USB Type-C |
| HDMI | + | + |
| รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| VR Ready | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 3.0 | 3.0 |
| Vulkan | 1.3 | 1.3 |
| CUDA | 7.5 | 7.5 |
| DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 mediacal-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - Catia
SPECviewperf 12 - specvp12 3dsmax-05
SPECviewperf 12 - Solidworks
SPECviewperf 12 - Siemens NX
SPECviewperf 12 - Creo
SPECviewperf 12 - Energy
SPECviewperf 12 - 3ds Max
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 จำลองการทำงานกับ 3DS Max โดยรันการทดสอบทั้งหมด 11 ครั้งในสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างแบบจำลองสถาปัตยกรรมและแอนิเมชันสำหรับเกมคอมพิวเตอร์
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 144
+25.2%
| 115
−25.2%
|
| 1440p | 101
+53%
| 66
−53%
|
| 4K | 73
+69.8%
| 43
−69.8%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 4.85
−39.9%
| 3.47
+39.9%
|
| 1440p | 6.92
−14.5%
| 6.05
+14.5%
|
| 4K | 9.58
−3.2%
| 9.28
+3.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 240−250
−32.2%
|
320
+32.2%
|
| Cyberpunk 2077 | 100−110
+21.6%
|
88
−21.6%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 163
+39.3%
|
117
−39.3%
|
| Counter-Strike 2 | 240−250
−17.8%
|
285
+17.8%
|
| Cyberpunk 2077 | 100−110
+35.4%
|
79
−35.4%
|
| Escape from Tarkov | 121
+0.8%
|
120
−0.8%
|
| Far Cry 5 | 117
−15.4%
|
135
+15.4%
|
| Fortnite | 199
−33.7%
|
266
+33.7%
|
| Forza Horizon 4 | 156
+2.6%
|
152
−2.6%
|
| Forza Horizon 5 | 140−150
+12.8%
|
125
−12.8%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 209
+42.2%
|
147
−42.2%
|
| Valorant | 263
−13.3%
|
298
+13.3%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 155
+53.5%
|
101
−53.5%
|
| Counter-Strike 2 | 240−250
+38.3%
|
175
−38.3%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
| Cyberpunk 2077 | 100−110
+50.7%
|
71
−50.7%
|
| Dota 2 | 140−150
−34.2%
|
200
+34.2%
|
| Escape from Tarkov | 121
+3.4%
|
117
−3.4%
|
| Far Cry 5 | 112
−12.5%
|
126
+12.5%
|
| Fortnite | 173
−1.2%
|
175
+1.2%
|
| Forza Horizon 4 | 153
+4.1%
|
147
−4.1%
|
| Forza Horizon 5 | 140−150
+30.6%
|
108
−30.6%
|
| Grand Theft Auto V | 131
−6.1%
|
139
+6.1%
|
| Metro Exodus | 90
+11.1%
|
81
−11.1%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 188
+31.5%
|
143
−31.5%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 181
+11%
|
163
−11%
|
| Valorant | 254
−15.4%
|
293
+15.4%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 145
+55.9%
|
93
−55.9%
|
| Cyberpunk 2077 | 100−110
+72.6%
|
62
−72.6%
|
| Dota 2 | 140−150
−24.2%
|
185
+24.2%
|
| Escape from Tarkov | 121
+23.5%
|
98
−23.5%
|
| Far Cry 5 | 106
−11.3%
|
118
+11.3%
|
| Forza Horizon 4 | 132
+10%
|
120
−10%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 169
+37.4%
|
123
−37.4%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 106
+24.7%
|
85
−24.7%
|
| Valorant | 223
+23.9%
|
180
−23.9%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 156
+5.4%
|
148
−5.4%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 120−130
+21.2%
|
99
−21.2%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
+14.3%
|
270−280
−14.3%
|
| Grand Theft Auto V | 95−100
+10.5%
|
86
−10.5%
|
| Metro Exodus | 60
+22.4%
|
49
−22.4%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
| Valorant | 247
−8.5%
|
268
+8.5%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 125
+68.9%
|
74
−68.9%
|
| Cyberpunk 2077 | 55−60
+37.5%
|
40
−37.5%
|
| Escape from Tarkov | 117
+50%
|
78
−50%
|
| Far Cry 5 | 99
+12.5%
|
88
−12.5%
|
| Forza Horizon 4 | 118
+20.4%
|
98
−20.4%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
+19.7%
|
75−80
−19.7%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 128
+30.6%
|
98
−30.6%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 50−55
+135%
|
23
−135%
|
| Grand Theft Auto V | 107
+28.9%
|
83
−28.9%
|
| Metro Exodus | 39
+25.8%
|
31
−25.8%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 76
+28.8%
|
59
−28.8%
|
| Valorant | 234
+11.4%
|
210
−11.4%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 76
+58.3%
|
48
−58.3%
|
| Counter-Strike 2 | 50−55
+17.4%
|
45−50
−17.4%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
+36.8%
|
19
−36.8%
|
| Dota 2 | 120−130
+0.8%
|
121
−0.8%
|
| Escape from Tarkov | 55
+44.7%
|
38
−44.7%
|
| Far Cry 5 | 59
+28.3%
|
46
−28.3%
|
| Forza Horizon 4 | 81
+20.9%
|
67
−20.9%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 69
+40.8%
|
49
−40.8%
|
4K
Epic
| Fortnite | 65
+35.4%
|
48
−35.4%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 และ RTX 2060 Super แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เร็วกว่า 25% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 เร็วกว่า 53% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 เร็วกว่า 70% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2080 เร็วกว่า 135%
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2060 Super เร็วกว่า 34%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เหนือกว่าใน 49การทดสอบ (77%)
- RTX 2060 Super เหนือกว่าใน 13การทดสอบ (20%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 44.08 | 38.89 |
| ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2018 | 9 กรกฎาคม 2019 |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 215 วัตต์ | 175 วัตต์ |
RTX 2080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 13.3%
ในทางกลับกัน RTX 2060 Super มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 22.9%
GeForce RTX 2080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2060 Super ในการทดสอบประสิทธิภาพ
