Radeon RX 5600 XT เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ Radeon RX 5600 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
TITAN RTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5600 XT อย่างมหาศาล 39% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 68 | 147 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 80 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.12 | 53.38 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.05 | 16.15 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 1.0 (2019−2020) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | Navi 10 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 21 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $279 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 5600 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 2418%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 2304 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1130 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1560 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 10,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 150 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 224.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 7.188 TFLOPS |
ROPs | 96 | 64 |
TMUs | 288 | 144 |
Tensor Cores | 576 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 72 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 14000 MHz |
672.0 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 164
+49.1%
| 110
−49.1%
|
1440p | 103
+60.9%
| 64
−60.9%
|
4K | 74
+94.7%
| 38
−94.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.24
−501%
| 2.54
+501%
|
1440p | 24.26
−457%
| 4.36
+457%
|
4K | 33.77
−360%
| 7.34
+360%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 264
+79.6%
|
147
−79.6%
|
Counter-Strike 2 | 166
+116%
|
77
−116%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−5.1%
|
83
+5.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 198
+72.2%
|
115
−72.2%
|
Battlefield 5 | 163
+37%
|
110−120
−37%
|
Counter-Strike 2 | 141
+124%
|
63
−124%
|
Cyberpunk 2077 | 79
+6.8%
|
74
−6.8%
|
Far Cry 5 | 165
+11.5%
|
148
−11.5%
|
Fortnite | 169
+15%
|
140−150
−15%
|
Forza Horizon 4 | 187
+1.1%
|
185
−1.1%
|
Forza Horizon 5 | 168
+38.8%
|
121
−38.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+54.2%
|
130−140
−54.2%
|
Valorant | 348
+26.5%
|
275
−26.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 118
+78.8%
|
66
−78.8%
|
Battlefield 5 | 164
+37.8%
|
110−120
−37.8%
|
Counter-Strike 2 | 120
+126%
|
53
−126%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0.4%
|
270−280
−0.4%
|
Cyberpunk 2077 | 79
+25.4%
|
63
−25.4%
|
Dota 2 | 155
−19.4%
|
185
+19.4%
|
Far Cry 5 | 156
+15.6%
|
135
−15.6%
|
Fortnite | 176
+19.7%
|
140−150
−19.7%
|
Forza Horizon 4 | 186
+7.5%
|
173
−7.5%
|
Forza Horizon 5 | 153
+68.1%
|
91
−68.1%
|
Grand Theft Auto V | 152
+20.6%
|
126
−20.6%
|
Metro Exodus | 134
+65.4%
|
81
−65.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
+24.4%
|
130−140
−24.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 267
+90.7%
|
140
−90.7%
|
Valorant | 336
+23.5%
|
272
−23.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160
+34.5%
|
110−120
−34.5%
|
Counter-Strike 2 | 110
+134%
|
47
−134%
|
Cyberpunk 2077 | 78
+44.4%
|
54
−44.4%
|
Dota 2 | 148
−13.5%
|
168
+13.5%
|
Far Cry 5 | 146
+15.9%
|
126
−15.9%
|
Forza Horizon 4 | 175
+26.8%
|
138
−26.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
+3.8%
|
130−140
−3.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
+65.5%
|
84
−65.5%
|
Valorant | 236
+59.5%
|
148
−59.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 134
−9.7%
|
140−150
+9.7%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+28.6%
|
27−30
−28.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
+39.6%
|
220−230
−39.6%
|
Grand Theft Auto V | 114
+86.9%
|
61
−86.9%
|
Metro Exodus | 85
+73.5%
|
49
−73.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 307
+21.8%
|
252
−21.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+28.7%
|
85−90
−28.7%
|
Cyberpunk 2077 | 66
+120%
|
30
−120%
|
Far Cry 5 | 134
+50.6%
|
89
−50.6%
|
Forza Horizon 4 | 157
+44%
|
109
−44%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
+54.2%
|
55−60
−54.2%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 120−130
+48.2%
|
80−85
−48.2%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 35−40
+46.2%
|
24−27
−46.2%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
+43.8%
|
16−18
−43.8%
|
Grand Theft Auto V | 134
+113%
|
63
−113%
|
Metro Exodus | 55
+83.3%
|
30
−83.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
+124%
|
46
−124%
|
Valorant | 300
+40.2%
|
214
−40.2%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
+90.2%
|
50−55
−90.2%
|
Counter-Strike 2 | 18
+200%
|
6
−200%
|
Cyberpunk 2077 | 33
+175%
|
12
−175%
|
Dota 2 | 146
+47.5%
|
99
−47.5%
|
Far Cry 5 | 80
+77.8%
|
45
−77.8%
|
Forza Horizon 4 | 114
+62.9%
|
70
−62.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+140%
|
40−45
−140%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 74
+85%
|
40−45
−85%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 85
+0%
|
85
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 59
+0%
|
59
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 30
+0%
|
30
+0%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RX 5600 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เร็วกว่า 49% ในความละเอียด 1080p
- TITAN RTX เร็วกว่า 61% ในความละเอียด 1440p
- TITAN RTX เร็วกว่า 95% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 200%
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 5600 XT เร็วกว่า 19%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (88%)
- RX 5600 XT เหนือกว่าใน 4การทดสอบ (6%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 48.42 | 34.75 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 21 มกราคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 6 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 150 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 39.3% และ
ในทางกลับกัน RX 5600 XT มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 86.7%
TITAN RTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5600 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ