Radeon RX 460 เทียบกับ RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 และ Radeon RX 460 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 460 อย่างมหาศาลถึง 305% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 87 | 439 |
จัดอันดับตามความนิยม | 89 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 93.50 | 1.12 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.03 | 9.79 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | Baffin |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 8 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | $86 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 460 อยู่ 8248%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 896 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 1090 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 1200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 3,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 75 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 67.20 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 2.15 TFLOPS |
ROPs | 64 | 16 |
TMUs | 128 | 56 |
Ray Tracing Cores | 32 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 3.0 x8 |
ความยาว | 204 mm | 170 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 1750 MHz |
288.0 จีบี/s | 112.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort |
HDMI | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 145
+245%
| 42
−245%
|
1440p | 67
+34%
| 50
−34%
|
4K | 35
+75%
| 20
−75%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.86
+10.4%
| 2.05
−10.4%
|
1440p | 4.01
−133%
| 1.72
+133%
|
4K | 7.69
−78.7%
| 4.30
+78.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
+752%
|
24−27
−752%
|
Counter-Strike 2 | 135
+650%
|
18
−650%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+640%
|
20−22
−640%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 158
+532%
|
24−27
−532%
|
Battlefield 5 | 130−140
+207%
|
40−45
−207%
|
Counter-Strike 2 | 108
+500%
|
18−20
−500%
|
Cyberpunk 2077 | 117
+485%
|
20−22
−485%
|
Far Cry 5 | 183
+358%
|
40
−358%
|
Fortnite | 170−180
+48.3%
|
116
−48.3%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+170%
|
57
−170%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+354%
|
24−27
−354%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+333%
|
36
−333%
|
Valorant | 230−240
+146%
|
90−95
−146%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 93
+272%
|
24−27
−272%
|
Battlefield 5 | 130−140
+207%
|
40−45
−207%
|
Counter-Strike 2 | 90
+400%
|
18−20
−400%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+85.3%
|
150−160
−85.3%
|
Cyberpunk 2077 | 100
+400%
|
20−22
−400%
|
Far Cry 5 | 174
+370%
|
37
−370%
|
Fortnite | 170−180
+341%
|
39
−341%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+185%
|
54
−185%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+354%
|
24−27
−354%
|
Grand Theft Auto V | 150
+329%
|
35
−329%
|
Metro Exodus | 113
+438%
|
21
−438%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+457%
|
28
−457%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
+468%
|
37
−468%
|
Valorant | 230−240
+146%
|
90−95
−146%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+207%
|
40−45
−207%
|
Counter-Strike 2 | 81
+710%
|
10
−710%
|
Cyberpunk 2077 | 90
+350%
|
20−22
−350%
|
Far Cry 5 | 163
+379%
|
34
−379%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+276%
|
41
−276%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+680%
|
20
−680%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
+435%
|
23
−435%
|
Valorant | 230−240
+146%
|
90−95
−146%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+455%
|
31
−455%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+146%
|
12−14
−146%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+262%
|
75−80
−262%
|
Grand Theft Auto V | 77
+450%
|
14−16
−450%
|
Metro Exodus | 65
+491%
|
10−12
−491%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+250%
|
50−55
−250%
|
Valorant | 260−270
+135%
|
110−120
−135%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+304%
|
24−27
−304%
|
Cyberpunk 2077 | 56
+600%
|
8−9
−600%
|
Far Cry 5 | 115
+448%
|
21−24
−448%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+379%
|
24−27
−379%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+473%
|
14−16
−473%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+405%
|
21−24
−405%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+313%
|
8−9
−313%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+400%
|
4−5
−400%
|
Grand Theft Auto V | 82
+290%
|
21−24
−290%
|
Metro Exodus | 38
+533%
|
6−7
−533%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
+392%
|
12
−392%
|
Valorant | 240−250
+358%
|
50−55
−358%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+433%
|
12−14
−433%
|
Counter-Strike 2 | 11
+175%
|
4−5
−175%
|
Cyberpunk 2077 | 24
+700%
|
3−4
−700%
|
Far Cry 5 | 57
+418%
|
11
−418%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
+353%
|
16−18
−353%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+511%
|
9−10
−511%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+489%
|
9−10
−489%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 70−75
+0%
|
70−75
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 70−75
+0%
|
70−75
+0%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
+0%
|
24−27
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 18−20
+0%
|
18−20
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 35−40
+0%
|
35−40
+0%
|
Forza Horizon 5 | 8−9
+0%
|
8−9
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ RX 460 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 245% ในความละเอียด 1080p
- RX 7600 เร็วกว่า 34% ในความละเอียด 1440p
- RX 7600 เร็วกว่า 75% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 752%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (91%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (9%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.68 | 10.53 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 8 สิงหาคม 2016 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 305.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
ในทางกลับกัน RX 460 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 120%
Radeon RX 7600 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 460 ในการทดสอบประสิทธิภาพ