Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เทียบกับ Pro 5500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro 5500M กับ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Pro 5500M มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) อย่างน่าประทับใจ 96% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 310 | 483 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 28 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.34 | 41.49 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | Vega |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 13 พฤศจิกายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 512 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1000 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1450 MHz | 2100 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 139.2 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.454 TFLOPS | ไม่มีข้อมูล |
ROPs | 32 | ไม่มีข้อมูล |
TMUs | 96 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | ไม่มีข้อมูล |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | ไม่มีข้อมูล |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | ไม่มีข้อมูล |
192.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12_1 |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | ไม่มีข้อมูล |
OpenGL | 4.6 | ไม่มีข้อมูล |
OpenCL | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
Vulkan | 1.2.131 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 58
+152%
| 23
−152%
|
1440p | 59
+247%
| 17
−247%
|
4K | 33
+267%
| 9
−267%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 27−30
+47.4%
|
19
−47.4%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 40−45
+81.8%
|
21−24
−81.8%
|
Assassin's Creed Valhalla | 27−30
+45%
|
20
−45%
|
Battlefield 5 | 55−60
+107%
|
27−30
−107%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 35−40
+89.5%
|
18−20
−89.5%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+100%
|
14
−100%
|
Far Cry 5 | 40−45
+95.2%
|
21−24
−95.2%
|
Far Cry New Dawn | 45−50
+84.6%
|
24−27
−84.6%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+83.6%
|
60−65
−83.6%
|
Hitman 3 | 30−35
+127%
|
15
−127%
|
Horizon Zero Dawn | 85−90
+70.6%
|
50−55
−70.6%
|
Metro Exodus | 60−65
+74.3%
|
35
−74.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 75
+127%
|
33
−127%
|
Shadow of the Tomb Raider | 55−60
+61.1%
|
36
−61.1%
|
Watch Dogs: Legion | 85−90
+41.7%
|
60−65
−41.7%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 40−45
+81.8%
|
21−24
−81.8%
|
Assassin's Creed Valhalla | 27−30
+81.3%
|
16
−81.3%
|
Battlefield 5 | 55−60
+107%
|
27−30
−107%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 50
+163%
|
18−20
−163%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+180%
|
10
−180%
|
Far Cry 5 | 40−45
+95.2%
|
21−24
−95.2%
|
Far Cry New Dawn | 45−50
+84.6%
|
24−27
−84.6%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+83.6%
|
60−65
−83.6%
|
Hitman 3 | 30−35
+127%
|
15
−127%
|
Horizon Zero Dawn | 85−90
+70.6%
|
50−55
−70.6%
|
Metro Exodus | 32
+28%
|
25
−28%
|
Red Dead Redemption 2 | 51
+104%
|
24−27
−104%
|
Shadow of the Tomb Raider | 55−60
+115%
|
27
−115%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40−45
+64%
|
24−27
−64%
|
Watch Dogs: Legion | 85−90
+41.7%
|
60−65
−41.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 40−45
+81.8%
|
21−24
−81.8%
|
Assassin's Creed Valhalla | 27−30
+107%
|
14
−107%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 35
+84.2%
|
18−20
−84.2%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
+211%
|
9
−211%
|
Far Cry 5 | 40−45
+95.2%
|
21−24
−95.2%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+83.6%
|
60−65
−83.6%
|
Hitman 3 | 30−35
+143%
|
14
−143%
|
Horizon Zero Dawn | 85−90
+263%
|
24
−263%
|
Shadow of the Tomb Raider | 55−60
+152%
|
23
−152%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 39
+179%
|
14
−179%
|
Watch Dogs: Legion | 85−90
+608%
|
12
−608%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 54
+157%
|
21
−157%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 30−35
+88.9%
|
18−20
−88.9%
|
Far Cry New Dawn | 27−30
+92.9%
|
14−16
−92.9%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 18−20
+100%
|
9−10
−100%
|
Assassin's Creed Valhalla | 14−16
+36.4%
|
11
−36.4%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 18−20
+111%
|
9−10
−111%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
+100%
|
5
−100%
|
Far Cry 5 | 20−22
+100%
|
10−11
−100%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+146%
|
35−40
−146%
|
Hitman 3 | 21−24
+110%
|
10
−110%
|
Horizon Zero Dawn | 35−40
+80%
|
20
−80%
|
Metro Exodus | 41
+141%
|
17
−141%
|
Shadow of the Tomb Raider | 30−35
+113%
|
16
−113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20−22
+150%
|
8−9
−150%
|
Watch Dogs: Legion | 115
+94.9%
|
59
−94.9%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 35
+169%
|
13
−169%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 16−18
+113%
|
8−9
−113%
|
Far Cry New Dawn | 12−14
+117%
|
6−7
−117%
|
Hitman 3 | 12−14
+160%
|
5−6
−160%
|
Horizon Zero Dawn | 90−95
+143%
|
35−40
−143%
|
Metro Exodus | 18−20
+157%
|
7−8
−157%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18
+183%
|
6−7
−183%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 10−11
+100%
|
5−6
−100%
|
Assassin's Creed Valhalla | 9−10
+125%
|
4−5
−125%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 9−10
+125%
|
4−5
−125%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
+200%
|
1−2
−200%
|
Far Cry 5 | 10−11
+100%
|
5−6
−100%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
+118%
|
10−12
−118%
|
Shadow of the Tomb Raider | 18−20
+111%
|
9
−111%
|
Watch Dogs: Legion | 7−8
+133%
|
3−4
−133%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 16
+77.8%
|
9−10
−77.8%
|
นี่คือวิธีที่ Pro 5500M และ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro 5500M เร็วกว่า 152% ในความละเอียด 1080p
- Pro 5500M เร็วกว่า 247% ในความละเอียด 1440p
- Pro 5500M เร็วกว่า 267% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Watch Dogs: Legion ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ Pro 5500M เร็วกว่า 608%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น Pro 5500M เหนือกว่า RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) ในการทดสอบทั้ง 72 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.63 | 9.00 |
ความใหม่ล่าสุด | 13 พฤศจิกายน 2019 | 7 มกราคม 2020 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 วัตต์ | 15 วัตต์ |
Pro 5500M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 95.9%
ในทางกลับกัน RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 466.7%
Radeon Pro 5500M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro 5500M เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพาเช่นกัน
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ