GeForce RTX 5070 Ti เทียบกับ RTX 5060
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 5060 และ GeForce RTX 5070 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 5060 อย่างน่าประทับใจ 57% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 68 | 7 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 57 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 100.00 | 52.40 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 25.74 | 19.59 |
สถาปัตยกรรม | Blackwell 2.0 (2025) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | GB206 | GB203 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 19 พฤษภาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) | 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $299 | $749 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 5070 Ti อยู่ 91%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2280 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2497 MHz | 2452 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,900 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 145 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 299.6 | 686.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 19.18 TFLOPS | 43.94 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 120 | 280 |
Tensor Cores | 120 | 280 |
Ray Tracing Cores | 30 | 70 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 5.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR7 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
448.0 จีบี/s | 896.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.4 | 1.4 |
CUDA | 12.0 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 159
−45.9%
| 232
+45.9%
|
1440p | 78
−74.4%
| 136
+74.4%
|
4K | 52
−71.2%
| 89
+71.2%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.88
+71.7%
| 3.23
−71.7%
|
1440p | 3.83
+43.7%
| 5.51
−43.7%
|
4K | 5.75
+46.4%
| 8.42
−46.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 260−270
−23.6%
|
300−350
+23.6%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
−67.8%
|
200−210
+67.8%
|
Dead Island 2 | 230−240
−32.3%
|
300−350
+32.3%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 150−160
−29.6%
|
190−200
+29.6%
|
Counter-Strike 2 | 260−270
−23.6%
|
300−350
+23.6%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
−67.8%
|
200−210
+67.8%
|
Dead Island 2 | 230−240
−32.3%
|
300−350
+32.3%
|
Far Cry 5 | 250
−30.4%
|
326
+30.4%
|
Fortnite | 210−220
−38.5%
|
300−350
+38.5%
|
Forza Horizon 4 | 190−200
−71.4%
|
300−350
+71.4%
|
Forza Horizon 5 | 150−160
−47.7%
|
220−230
+47.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.1%
|
170−180
+1.1%
|
Valorant | 270−280
−80.8%
|
450−500
+80.8%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 150−160
−29.6%
|
190−200
+29.6%
|
Counter-Strike 2 | 260−270
−23.6%
|
300−350
+23.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
−67.8%
|
200−210
+67.8%
|
Dead Island 2 | 230−240
−32.3%
|
300−350
+32.3%
|
Far Cry 5 | 228
−36%
|
310
+36%
|
Fortnite | 210−220
−38.5%
|
300−350
+38.5%
|
Forza Horizon 4 | 190−200
−71.4%
|
300−350
+71.4%
|
Forza Horizon 5 | 150−160
−47.7%
|
220−230
+47.7%
|
Grand Theft Auto V | 150−160
−16%
|
170−180
+16%
|
Metro Exodus | 120−130
−94.4%
|
241
+94.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.1%
|
170−180
+1.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 286
−85%
|
529
+85%
|
Valorant | 270−280
−80.8%
|
450−500
+80.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 150−160
−29.6%
|
190−200
+29.6%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
−67.8%
|
200−210
+67.8%
|
Dead Island 2 | 230−240
−32.3%
|
300−350
+32.3%
|
Far Cry 5 | 213
−38%
|
294
+38%
|
Forza Horizon 4 | 190−200
−71.4%
|
300−350
+71.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.1%
|
170−180
+1.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 143
−72%
|
246
+72%
|
Valorant | 270−280
−80.8%
|
450−500
+80.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 210−220
−38.5%
|
300−350
+38.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 140−150
−82.9%
|
250−260
+82.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
−44.1%
|
500−550
+44.1%
|
Grand Theft Auto V | 100−110
−51.9%
|
160−170
+51.9%
|
Metro Exodus | 75−80
−96.2%
|
153
+96.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−56.5%
|
450−500
+56.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 120−130
−59.3%
|
190−200
+59.3%
|
Cyberpunk 2077 | 60−65
−92.2%
|
120−130
+92.2%
|
Dead Island 2 | 110−120
−87.2%
|
210−220
+87.2%
|
Far Cry 5 | 145
−73.1%
|
251
+73.1%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
−90.9%
|
290−300
+90.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 106
−91.5%
|
203
+91.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−8.6%
|
150−160
+8.6%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
−85.7%
|
110−120
+85.7%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
−56.8%
|
180−190
+56.8%
|
Metro Exodus | 45−50
−106%
|
101
+106%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 91
−109%
|
190
+109%
|
Valorant | 290−300
−12.6%
|
300−350
+12.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
−63.9%
|
130−140
+63.9%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−85.7%
|
110−120
+85.7%
|
Cyberpunk 2077 | 30−33
−100%
|
60−65
+100%
|
Dead Island 2 | 50−55
−104%
|
100−110
+104%
|
Far Cry 5 | 75
−92%
|
144
+92%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−149%
|
260−270
+149%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−17.1%
|
95−100
+17.1%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−8.2%
|
75−80
+8.2%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 5060 และ RTX 5070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 46% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 74% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 71% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti เร็วกว่า 149%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 50.31 | 79.21 |
ความใหม่ล่าสุด | 19 พฤษภาคม 2025 | 20 กุมภาพันธ์ 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 145 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 5060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 106.9%
ในทางกลับกัน RTX 5070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 57.4% และ
GeForce RTX 5070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 5060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ