GeForce RTX 5070 Ti เทียบกับ RTX 4070 Ti SUPER
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4070 Ti SUPER และ GeForce RTX 5070 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
5070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า 4070 Ti SUPER อย่างน้อย 3% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 16 | 14 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 42 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 55.32 | 61.13 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 20.33 | 19.94 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | GB203 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $799 | $749 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4070 Ti SUPER อยู่ 11%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 8448 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2340 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2610 MHz | 2452 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 689.0 | 686.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 44.1 TFLOPS | 43.94 TFLOPS |
ROPs | 96 | 96 |
TMUs | 264 | 280 |
Tensor Cores | 264 | 280 |
Ray Tracing Cores | 66 | 70 |
L1 Cache | 8.3 เอ็มบี | 8.8 เอ็มบี |
L2 Cache | 48 เอ็มบี | 48 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 310 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 1750 MHz |
672.3 จีบี/s | 896.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | 8.9 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 224
−5.8%
| 237
+5.8%
|
1440p | 147
+6.5%
| 138
−6.5%
|
4K | 89
+0%
| 89
+0%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.57
−12.9%
| 3.16
+12.9%
|
1440p | 5.44
−0.1%
| 5.43
+0.1%
|
4K | 8.98
−6.7%
| 8.42
+6.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 197
−3.6%
|
200−210
+3.6%
|
Hogwarts Legacy | 170−180
−30%
|
221
+30%
|
Full HD
Medium
Battlefield 5 | 190−200
−2.1%
|
190−200
+2.1%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 196
−4.1%
|
200−210
+4.1%
|
Far Cry 5 | 203
−66.5%
|
338
+66.5%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−4.4%
|
300−350
+4.4%
|
Forza Horizon 5 | 220−230
−2.3%
|
220−230
+2.3%
|
Hogwarts Legacy | 170−180
−18.2%
|
201
+18.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
−6.1%
|
500−550
+6.1%
|
Full HD
High
Battlefield 5 | 190−200
−2.1%
|
190−200
+2.1%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 172
−18.6%
|
200−210
+18.6%
|
Far Cry 5 | 197
−62.9%
|
321
+62.9%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−4.4%
|
300−350
+4.4%
|
Forza Horizon 5 | 220−230
−2.3%
|
220−230
+2.3%
|
Grand Theft Auto V | 174
+0%
|
170−180
+0%
|
Hogwarts Legacy | 170−180
−4.7%
|
178
+4.7%
|
Metro Exodus | 196
−23%
|
241
+23%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 430
−23%
|
529
+23%
|
Valorant | 450−500
−6.1%
|
500−550
+6.1%
|
Full HD
Ultra
Battlefield 5 | 190−200
−2.1%
|
190−200
+2.1%
|
Cyberpunk 2077 | 158
−29.1%
|
200−210
+29.1%
|
Far Cry 5 | 188
−61.7%
|
304
+61.7%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−4.4%
|
300−350
+4.4%
|
Hogwarts Legacy | 170−180
+18.9%
|
143
−18.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
−19.5%
|
251
+19.5%
|
Valorant | 450−500
−6.1%
|
500−550
+6.1%
|
Full HD
Epic
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High
Counter-Strike 2 | 240−250
−4.5%
|
250−260
+4.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+0%
|
500−550
+0%
|
Grand Theft Auto V | 155
−3.2%
|
160−170
+3.2%
|
Metro Exodus | 131
−16.8%
|
153
+16.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+0%
|
450−500
+0%
|
1440p
Ultra
Battlefield 5 | 190−200
+0%
|
190−200
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 104
−19.2%
|
120−130
+19.2%
|
Far Cry 5 | 187
−39%
|
260
+39%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
−4.3%
|
290−300
+4.3%
|
Hogwarts Legacy | 100−110
+0.9%
|
107
−0.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 159
−29.6%
|
206
+29.6%
|
1440p
Epic
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High
Counter-Strike 2 | 36
−225%
|
110−120
+225%
|
Grand Theft Auto V | 182
−1.6%
|
180−190
+1.6%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
−19.7%
|
79
+19.7%
|
Metro Exodus | 84
−20.2%
|
101
+20.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 180−190
−4.8%
|
198
+4.8%
|
Valorant | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
4K
Ultra
Battlefield 5 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−4.5%
|
110−120
+4.5%
|
Cyberpunk 2077 | 50
−22%
|
60−65
+22%
|
Far Cry 5 | 119
−23.5%
|
147
+23.5%
|
Forza Horizon 4 | 240−250
−7.7%
|
260−270
+7.7%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
+4.8%
|
63
−4.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4070 Ti SUPER และ RTX 5070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 6% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 7% ในความละเอียด 1440p
- เสมอกันในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Hogwarts Legacy ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 19%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti เร็วกว่า 225%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 5070 Ti เหนือกว่าใน 43การทดสอบ (68%)
- เสมอกันใน 17การทดสอบ (27%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 71.93 | 74.24 |
ความใหม่ล่าสุด | 8 มกราคม 2024 | 20 กุมภาพันธ์ 2025 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 4070 Ti SUPER มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 5.3%
ในทางกลับกัน RTX 5070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 3.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 4070 Ti SUPER และ GeForce RTX 5070 Ti ได้อย่างชัดเจน