Arc A730M เทียบกับ GeForce RTX 4090
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4090 กับ Arc A730M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4090 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A730M อย่างมหาศาลถึง 266% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 2 | 211 |
จัดอันดับตามความนิยม | 8 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.86 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.24 | 23.39 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | AD102 | DG2-512 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,599 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 16384 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2235 MHz | 1100 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2520 MHz | 2050 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 76,300 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 450 Watt | 80 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 1,290 | 393.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 82.58 TFLOPS | 12.6 TFLOPS |
ROPs | 176 | 96 |
TMUs | 512 | 192 |
Tensor Cores | 512 | 384 |
Ray Tracing Cores | 128 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 304 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 3-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 1750 MHz |
1.01 ทีบี/s | 336.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | - |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 259
+250%
| 74
−250%
|
1440p | 198
+395%
| 40
−395%
|
4K | 142
+576%
| 21
−576%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 6.17 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 8.08 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 11.26 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 324
+370%
|
69
−370%
|
Counter-Strike 2 | 212
+253%
|
60
−253%
|
Cyberpunk 2077 | 227
+220%
|
71
−220%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 265
+410%
|
52
−410%
|
Battlefield 5 | 190−200
+97%
|
100−105
−97%
|
Counter-Strike 2 | 215
+241%
|
63
−241%
|
Cyberpunk 2077 | 224
+250%
|
64
−250%
|
Far Cry 5 | 209
+125%
|
93
−125%
|
Fortnite | 300−350
+144%
|
120−130
−144%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+241%
|
100−110
−241%
|
Forza Horizon 5 | 281
+368%
|
60
−368%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+77%
|
100−105
−77%
|
Valorant | 650−700
+293%
|
170−180
−293%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 234
+485%
|
40
−485%
|
Battlefield 5 | 190−200
+97%
|
100−105
−97%
|
Counter-Strike 2 | 199
+269%
|
54
−269%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+5.7%
|
260−270
−5.7%
|
Cyberpunk 2077 | 215
+298%
|
54
−298%
|
Dota 2 | 253
+181%
|
90
−181%
|
Far Cry 5 | 201
+134%
|
86
−134%
|
Fortnite | 300−350
+144%
|
120−130
−144%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+241%
|
100−110
−241%
|
Forza Horizon 5 | 275
+277%
|
70−75
−277%
|
Grand Theft Auto V | 174
+142%
|
72
−142%
|
Metro Exodus | 229
+433%
|
43
−433%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+77%
|
100−105
−77%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 579
+426%
|
110
−426%
|
Valorant | 650−700
+293%
|
170−180
−293%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+97%
|
100−105
−97%
|
Counter-Strike 2 | 185
+263%
|
50−55
−263%
|
Cyberpunk 2077 | 211
+306%
|
52
−306%
|
Dota 2 | 224
+180%
|
80
−180%
|
Far Cry 5 | 187
+131%
|
81
−131%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+241%
|
100−110
−241%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+77%
|
100−105
−77%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 305
+578%
|
45
−578%
|
Valorant | 680
+567%
|
102
−567%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+144%
|
120−130
−144%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 170−180
+287%
|
45−50
−287%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+188%
|
170−180
−188%
|
Grand Theft Auto V | 162
+245%
|
45−50
−245%
|
Metro Exodus | 180
+414%
|
35−40
−414%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+130%
|
210−220
−130%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+176%
|
70−75
−176%
|
Cyberpunk 2077 | 159
+413%
|
31
−413%
|
Far Cry 5 | 187
+217%
|
55−60
−217%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+357%
|
65−70
−357%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 259
+502%
|
40−45
−502%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+144%
|
60−65
−144%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 102
+410%
|
20−22
−410%
|
Counter-Strike 2 | 130
+983%
|
12−14
−983%
|
Grand Theft Auto V | 187
+450%
|
34
−450%
|
Metro Exodus | 137
+552%
|
21
−552%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 280
+637%
|
35−40
−637%
|
Valorant | 300−350
+121%
|
150−160
−121%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+249%
|
35−40
−249%
|
Counter-Strike 2 | 38
+217%
|
12−14
−217%
|
Cyberpunk 2077 | 81
+636%
|
10−12
−636%
|
Dota 2 | 227
+177%
|
80−85
−177%
|
Far Cry 5 | 170
+386%
|
35
−386%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+578%
|
45−50
−578%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+243%
|
27−30
−243%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+182%
|
27−30
−182%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 47
+0%
|
47
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
+0%
|
24−27
+0%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+0%
|
45−50
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 24−27
+0%
|
24−27
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4090 และ Arc A730M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4090 เร็วกว่า 250% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4090 เร็วกว่า 395% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4090 เร็วกว่า 576% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4090 เร็วกว่า 983%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4090 เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (93%)
- เสมอกันใน 5การทดสอบ (7%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 99.38 | 27.12 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 450 วัตต์ | 80 วัตต์ |
RTX 4090 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 266.4% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
ในทางกลับกัน Arc A730M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 462.5%
GeForce RTX 4090 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A730M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 4090 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Arc A730M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก