GeForce RTX 4080 SUPER เทียบกับ Arc A730M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A730M กับ GeForce RTX 4080 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A730M อย่างมหาศาลถึง 250% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 230 | 6 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 90 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 38.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 21.67 | 18.94 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1100 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2050 MHz | 2550 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 393.6 | 816.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.6 TFLOPS | 52.22 TFLOPS |
ROPs | 96 | 112 |
TMUs | 192 | 320 |
Tensor Cores | 384 | 320 |
Ray Tracing Cores | 24 | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1438 MHz |
336.0 จีบี/s | 736.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 74
−247%
| 257
+247%
|
1440p | 45
−296%
| 178
+296%
|
4K | 22
−432%
| 117
+432%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.89 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.61 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.54 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 169
−108%
|
351
+108%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−251%
|
249
+251%
|
Hogwarts Legacy | 70
−193%
|
205
+193%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 100−105
−97%
|
190−200
+97%
|
Counter-Strike 2 | 155
−122%
|
344
+122%
|
Cyberpunk 2077 | 64
−284%
|
246
+284%
|
Far Cry 5 | 93
−158%
|
240
+158%
|
Fortnite | 120−130
−144%
|
300−350
+144%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−241%
|
344
+241%
|
Forza Horizon 5 | 86
−258%
|
308
+258%
|
Hogwarts Legacy | 49
−278%
|
185
+278%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−105
−76%
|
170−180
+76%
|
Valorant | 170−180
−217%
|
500−550
+217%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 100−105
−97%
|
190−200
+97%
|
Counter-Strike 2 | 98
−246%
|
339
+246%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 260−270
−6.1%
|
270−280
+6.1%
|
Cyberpunk 2077 | 54
−341%
|
238
+341%
|
Dota 2 | 90
−233%
|
300−310
+233%
|
Far Cry 5 | 86
−164%
|
227
+164%
|
Fortnite | 120−130
−144%
|
300−350
+144%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−239%
|
342
+239%
|
Forza Horizon 5 | 80
−256%
|
285
+256%
|
Grand Theft Auto V | 72
−149%
|
179
+149%
|
Hogwarts Legacy | 44
−277%
|
166
+277%
|
Metro Exodus | 43
−428%
|
227
+428%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−105
−76%
|
170−180
+76%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110
−397%
|
547
+397%
|
Valorant | 170−180
−217%
|
500−550
+217%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−105
−97%
|
190−200
+97%
|
Cyberpunk 2077 | 52
−283%
|
199
+283%
|
Dota 2 | 80
−238%
|
270−280
+238%
|
Far Cry 5 | 81
−162%
|
212
+162%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−219%
|
322
+219%
|
Hogwarts Legacy | 34
−353%
|
154
+353%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−105
−76%
|
170−180
+76%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−484%
|
263
+484%
|
Valorant | 102
−434%
|
500−550
+434%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−144%
|
300−350
+144%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 53
−417%
|
274
+417%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 170−180
−188%
|
500−550
+188%
|
Grand Theft Auto V | 45−50
−260%
|
169
+260%
|
Metro Exodus | 30−35
−376%
|
162
+376%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 210−220
−130%
|
450−500
+130%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
−176%
|
190−200
+176%
|
Cyberpunk 2077 | 31
−313%
|
128
+313%
|
Far Cry 5 | 55−60
−259%
|
208
+259%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−357%
|
306
+357%
|
Hogwarts Legacy | 27−30
−283%
|
111
+283%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40−45
−414%
|
221
+414%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 60−65
−144%
|
150−160
+144%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 7
−1814%
|
134
+1814%
|
Grand Theft Auto V | 34
−450%
|
187
+450%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
−375%
|
75−80
+375%
|
Metro Exodus | 21
−405%
|
106
+405%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−437%
|
204
+437%
|
Valorant | 150−160
−121%
|
300−350
+121%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−249%
|
130−140
+249%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−381%
|
120−130
+381%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−455%
|
61
+455%
|
Dota 2 | 80−85
−241%
|
280−290
+241%
|
Far Cry 5 | 35
−314%
|
145
+314%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−578%
|
305
+578%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
−325%
|
68
+325%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−243%
|
95−100
+243%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 27−30
−182%
|
75−80
+182%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A730M และ RTX 4080 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 247% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 296% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 432% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 1814%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 23.62 | 82.59 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 320 วัตต์ |
Arc A730M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RTX 4080 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 249.7% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 4080 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A730M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Arc A730M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4080 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป