GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ Arc A730M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A730M กับ GeForce RTX 4070 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A730M อย่างมหาศาลถึง 187% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 214 | 12 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 18 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 67.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 23.38 | 24.37 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | AD104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1100 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2050 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 393.6 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.6 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 96 | 80 |
TMUs | 192 | 224 |
Tensor Cores | 384 | 224 |
Ray Tracing Cores | 24 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
336.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 74
−199%
| 221
+199%
|
1440p | 40
−243%
| 137
+243%
|
4K | 21
−286%
| 81
+286%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.71 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.37 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.40 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 69
−219%
|
220−230
+219%
|
Counter-Strike 2 | 60
−210%
|
186
+210%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−176%
|
196
+176%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 52
−323%
|
220−230
+323%
|
Battlefield 5 | 100−105
−86%
|
180−190
+86%
|
Counter-Strike 2 | 63
−189%
|
182
+189%
|
Cyberpunk 2077 | 64
−188%
|
184
+188%
|
Far Cry 5 | 93
−118%
|
203
+118%
|
Fortnite | 120−130
−144%
|
300−350
+144%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−191%
|
290−300
+191%
|
Forza Horizon 5 | 60
−245%
|
200−210
+245%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−105
−77%
|
170−180
+77%
|
Valorant | 170−180
−149%
|
400−450
+149%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40
−450%
|
220−230
+450%
|
Battlefield 5 | 100−105
−86%
|
180−190
+86%
|
Counter-Strike 2 | 54
−194%
|
159
+194%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 260−270
−5.7%
|
270−280
+5.7%
|
Cyberpunk 2077 | 54
−194%
|
159
+194%
|
Dota 2 | 90
−178%
|
250−260
+178%
|
Far Cry 5 | 86
−133%
|
200
+133%
|
Fortnite | 120−130
−144%
|
300−350
+144%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−191%
|
290−300
+191%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−184%
|
200−210
+184%
|
Grand Theft Auto V | 72
−140%
|
173
+140%
|
Metro Exodus | 43
−330%
|
185
+330%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−105
−77%
|
170−180
+77%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110
−275%
|
412
+275%
|
Valorant | 170−180
−149%
|
400−450
+149%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−105
−86%
|
180−190
+86%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−173%
|
139
+173%
|
Cyberpunk 2077 | 52
−177%
|
144
+177%
|
Dota 2 | 80
−175%
|
220−230
+175%
|
Far Cry 5 | 81
−135%
|
190
+135%
|
Forza Horizon 4 | 100−110
−191%
|
290−300
+191%
|
Forza Horizon 5 | 47
−177%
|
130−140
+177%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−105
−77%
|
170−180
+77%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−347%
|
201
+347%
|
Valorant | 102
−321%
|
400−450
+321%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−144%
|
300−350
+144%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 170−180
−188%
|
500−550
+188%
|
Grand Theft Auto V | 45−50
−215%
|
148
+215%
|
Metro Exodus | 35−40
−237%
|
118
+237%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 210−220
−130%
|
450−500
+130%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
−170%
|
190−200
+170%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−183%
|
65−70
+183%
|
Cyberpunk 2077 | 31
−197%
|
92
+197%
|
Far Cry 5 | 55−60
−210%
|
183
+210%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−287%
|
250−260
+287%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
−183%
|
130−140
+183%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40−45
−258%
|
154
+258%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 60−65
−144%
|
150−160
+144%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 20−22
−255%
|
70−75
+255%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−383%
|
55−60
+383%
|
Grand Theft Auto V | 34
−388%
|
166
+388%
|
Metro Exodus | 21
−252%
|
74
+252%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−250%
|
133
+250%
|
Valorant | 150−160
−121%
|
300−350
+121%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−249%
|
130−140
+249%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−58.3%
|
19
+58.3%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−300%
|
44
+300%
|
Dota 2 | 80−85
−180%
|
230−240
+180%
|
Far Cry 5 | 35
−194%
|
103
+194%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−384%
|
210−220
+384%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−180%
|
70−75
+180%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−243%
|
95−100
+243%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 27−30
−182%
|
75−80
+182%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 80−85
+0%
|
80−85
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A730M และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 199% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 243% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 286% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 450%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 27.28 | 78.20 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 220 วัตต์ |
Arc A730M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 175%
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 186.7% และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A730M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Arc A730M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป