GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ Arc A730M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A730M กับ GeForce RTX 4070 SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A730M อย่างมหาศาลถึง 186% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 206 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 13 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 66.36 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 23.47 | 24.45 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | AD104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1100 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2050 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 393.6 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.6 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 96 | 80 |
TMUs | 192 | 224 |
Tensor Cores | 384 | 224 |
Ray Tracing Cores | 24 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
336.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 73
−199%
| 218
+199%
|
1440p | 42
−240%
| 143
+240%
|
4K | 25
−244%
| 86
+244%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.75 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.19 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 6.97 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 60
−210%
|
186
+210%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−182%
|
200−210
+182%
|
Elden Ring | 56
−448%
|
300−350
+448%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 80−85
−42.7%
|
110−120
+42.7%
|
Counter-Strike 2 | 63
−189%
|
182
+189%
|
Cyberpunk 2077 | 32
−181%
|
90−95
+181%
|
Forza Horizon 4 | 178
−144%
|
434
+144%
|
Metro Exodus | 84
−83.3%
|
150−160
+83.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 55−60
−150%
|
140−150
+150%
|
Valorant | 112
−291%
|
400−450
+291%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 80−85
−42.7%
|
110−120
+42.7%
|
Counter-Strike 2 | 54
−194%
|
159
+194%
|
Cyberpunk 2077 | 27
−178%
|
75−80
+178%
|
Dota 2 | 78
−122%
|
173
+122%
|
Elden Ring | 95
−223%
|
300−350
+223%
|
Far Cry 5 | 39
−290%
|
152
+290%
|
Fortnite | 130−140
−132%
|
300−350
+132%
|
Forza Horizon 4 | 149
−187%
|
428
+187%
|
Grand Theft Auto V | 72
−140%
|
173
+140%
|
Metro Exodus | 57
−29.8%
|
74
+29.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−29.5%
|
210−220
+29.5%
|
Red Dead Redemption 2 | 55−60
−150%
|
140−150
+150%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−93.3%
|
170−180
+93.3%
|
Valorant | 72
−508%
|
400−450
+508%
|
World of Tanks | 260−270
−4.9%
|
270−280
+4.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
−42.7%
|
110−120
+42.7%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−167%
|
139
+167%
|
Cyberpunk 2077 | 26
−169%
|
70−75
+169%
|
Dota 2 | 80
−175%
|
220−230
+175%
|
Far Cry 5 | 80−85
−81.5%
|
140−150
+81.5%
|
Forza Horizon 4 | 124
−207%
|
381
+207%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−29.5%
|
210−220
+29.5%
|
Valorant | 102
−329%
|
400−450
+329%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 45−50
−215%
|
148
+215%
|
Elden Ring | 55
−300%
|
220−230
+300%
|
Grand Theft Auto V | 45−50
−215%
|
148
+215%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 24−27
−272%
|
90−95
+272%
|
World of Tanks | 170−180
−188%
|
500−550
+188%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−61.1%
|
85−90
+61.1%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−263%
|
87
+263%
|
Cyberpunk 2077 | 15
−167%
|
40−45
+167%
|
Far Cry 5 | 80−85
−95.1%
|
160−170
+95.1%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
−258%
|
265
+258%
|
Metro Exodus | 60−65
−121%
|
130−140
+121%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40−45
−276%
|
154
+276%
|
Valorant | 71
−420%
|
350−400
+420%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−308%
|
100−110
+308%
|
Dota 2 | 34
−388%
|
166
+388%
|
Elden Ring | 21−24
−445%
|
120−130
+445%
|
Grand Theft Auto V | 34
−388%
|
166
+388%
|
Metro Exodus | 21
−252%
|
74
+252%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 80−85
−149%
|
200−210
+149%
|
Red Dead Redemption 2 | 16−18
−276%
|
60−65
+276%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 34
−388%
|
166
+388%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
−214%
|
90−95
+214%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−308%
|
100−110
+308%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−170%
|
27−30
+170%
|
Dota 2 | 45−50
−171%
|
130−140
+171%
|
Far Cry 5 | 35−40
−184%
|
100−110
+184%
|
Fortnite | 35−40
−174%
|
95−100
+174%
|
Forza Horizon 4 | 54
−144%
|
132
+144%
|
Valorant | 35−40
−481%
|
210−220
+481%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A730M และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 199% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 240% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 244% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 508%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 54การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 27.28 | 78.13 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 220 วัตต์ |
Arc A730M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 175%
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 186.4% และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A730M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Arc A730M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ