GeForce RTX 5080 เทียบกับ RTX 2080 Super
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 Super และ GeForce RTX 5080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2080 Super อย่างน่าประทับใจ 85% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 73 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 30.70 | 40.67 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.81 | 17.78 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | TU104 | GB203 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5080 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2080 Super อยู่ 32%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 10752 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1650 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1815 MHz | 2617 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 360 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 348.5 | 879.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 11.15 TFLOPS | 56.28 TFLOPS |
ROPs | 64 | 112 |
TMUs | 192 | 336 |
Tensor Cores | 384 | 336 |
Ray Tracing Cores | 48 | 84 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1937 MHz | 1875 MHz |
495.9 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
CUDA | 7.5 | 10.1 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 138
−47.1%
| 203
+47.1%
|
1440p | 92
−73.9%
| 160
+73.9%
|
4K | 70
−55.7%
| 109
+55.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.07
−2.9%
| 4.92
+2.9%
|
1440p | 7.60
−21.7%
| 6.24
+21.7%
|
4K | 9.99
−9%
| 9.17
+9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 250−260
−30.2%
|
300−350
+30.2%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−100%
|
220−230
+100%
|
Hogwarts Legacy | 110−120
−50%
|
170−180
+50%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 122
−61.5%
|
190−200
+61.5%
|
Counter-Strike 2 | 250−260
−30.2%
|
300−350
+30.2%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−100%
|
220−230
+100%
|
Far Cry 5 | 109
−114%
|
230−240
+114%
|
Fortnite | 253
−19.4%
|
300−350
+19.4%
|
Forza Horizon 4 | 143
−141%
|
300−350
+141%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−68.5%
|
240−250
+68.5%
|
Hogwarts Legacy | 110−120
−50%
|
170−180
+50%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 173
−1.7%
|
170−180
+1.7%
|
Valorant | 301
−102%
|
600−650
+102%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 110
−79.1%
|
190−200
+79.1%
|
Counter-Strike 2 | 250−260
−30.2%
|
300−350
+30.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−100%
|
220−230
+100%
|
Dota 2 | 138
−81.2%
|
250−260
+81.2%
|
Far Cry 5 | 105
−122%
|
230−240
+122%
|
Fortnite | 185
−63.2%
|
300−350
+63.2%
|
Forza Horizon 4 | 142
−142%
|
300−350
+142%
|
Forza Horizon 5 | 140−150
−68.5%
|
240−250
+68.5%
|
Grand Theft Auto V | 113
−53.1%
|
170−180
+53.1%
|
Hogwarts Legacy | 110−120
−50%
|
170−180
+50%
|
Metro Exodus | 93
+43.1%
|
65
−43.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 168
−4.8%
|
170−180
+4.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 195
−103%
|
350−400
+103%
|
Valorant | 283
−114%
|
600−650
+114%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
−50.4%
|
190−200
+50.4%
|
Cyberpunk 2077 | 89
−154%
|
220−230
+154%
|
Dota 2 | 129
−78.3%
|
230−240
+78.3%
|
Far Cry 5 | 106
−120%
|
230−240
+120%
|
Forza Horizon 4 | 133
−159%
|
300−350
+159%
|
Hogwarts Legacy | 59
−173%
|
161
+173%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 159
−10.7%
|
170−180
+10.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 109
−159%
|
282
+159%
|
Valorant | 217
−180%
|
600−650
+180%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 180
−67.8%
|
300−350
+67.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
−128%
|
290−300
+128%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−56.4%
|
500−550
+56.4%
|
Grand Theft Auto V | 95−100
−70.4%
|
160−170
+70.4%
|
Metro Exodus | 63
−175%
|
173
+175%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 273
−77.7%
|
450−500
+77.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 108
−81.5%
|
190−200
+81.5%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−151%
|
140−150
+151%
|
Far Cry 5 | 100
−128%
|
220−230
+128%
|
Forza Horizon 4 | 117
−162%
|
300−350
+162%
|
Hogwarts Legacy | 47
−170%
|
127
+170%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 95−100
−143%
|
236
+143%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 127
−18.9%
|
150−160
+18.9%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 55−60
+5.5%
|
55
−5.5%
|
Grand Theft Auto V | 115
−62.6%
|
180−190
+62.6%
|
Hogwarts Legacy | 30−35
−190%
|
90
+190%
|
Metro Exodus | 40
−210%
|
120−130
+210%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 79
−199%
|
236
+199%
|
Valorant | 262
−26.7%
|
300−350
+26.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
−100%
|
130−140
+100%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
−134%
|
130−140
+134%
|
Cyberpunk 2077 | 31
−129%
|
70−75
+129%
|
Dota 2 | 116
−81%
|
210−220
+81%
|
Far Cry 5 | 61
−179%
|
170−180
+179%
|
Forza Horizon 4 | 81
−277%
|
300−350
+277%
|
Hogwarts Legacy | 28
−161%
|
73
+161%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 68
−41.2%
|
95−100
+41.2%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 64
−23.4%
|
75−80
+23.4%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 Super และ RTX 5080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5080 เร็วกว่า 47% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5080 เร็วกว่า 74% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5080 เร็วกว่า 56% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2080 Super เร็วกว่า 43%
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5080 เร็วกว่า 277%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Super เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 5080 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 46.30 | 85.83 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 กรกฎาคม 2019 | 30 มกราคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 360 วัตต์ |
RTX 2080 Super มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 44%
ในทางกลับกัน RTX 5080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 85.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 5080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2080 Super ในการทดสอบประสิทธิภาพ