GeForce RTX 5050 Mobile เทียบกับ GTX 1650 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Max-Q และ GeForce RTX 5050 Mobile โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5050 Mobile มีประสิทธิภาพดีกว่า 1650 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 143% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 383 | 147 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 38.29 | 55.96 |
| สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Blackwell 2.0 (2025−2026) |
| ชื่อรหัส GPU | TU117 | GB207 |
| ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 24 มิถุนายน 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 2560 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 930 MHz | 2235 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1125 MHz | 2520 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 16,900 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 30 Watt | 50 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 72.00 | 201.6 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.304 TFLOPS | 12.9 TFLOPS |
| ROPs | 32 | 32 |
| TMUs | 64 | 80 |
| Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 80 |
| Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 20 |
| L1 Cache | 1 เอ็มบี | 2.5 เอ็มบี |
| L2 Cache | 1024 เคบี | 32 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | medium sized |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR7 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 128 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1751 MHz | 1750 MHz |
| 112.1 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 1.2 | 3.0 |
| Vulkan | 1.2.140 | 1.4 |
| CUDA | 7.5 | 12.0 |
| DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 60
−26.7%
| 76
+26.7%
|
| 1440p | 30
−43.3%
| 43
+43.3%
|
| 4K | 18
−122%
| 40−45
+122%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 85−90
−138%
|
200−210
+138%
|
| Cyberpunk 2077 | 30−35
−169%
|
85−90
+169%
|
| Hogwarts Legacy | 27−30
−207%
|
85−90
+207%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 64
−102%
|
120−130
+102%
|
| Counter-Strike 2 | 85−90
−138%
|
200−210
+138%
|
| Cyberpunk 2077 | 30−35
−169%
|
85−90
+169%
|
| Far Cry 5 | 38
−213%
|
110−120
+213%
|
| Fortnite | 138
−16.7%
|
160−170
+16.7%
|
| Forza Horizon 4 | 74
−93.2%
|
140−150
+93.2%
|
| Forza Horizon 5 | 45−50
−144%
|
110−120
+144%
|
| Hogwarts Legacy | 27−30
−207%
|
85−90
+207%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
−72.9%
|
140−150
+72.9%
|
| Valorant | 120−130
−75.2%
|
210−220
+75.2%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 54
−139%
|
120−130
+139%
|
| Counter-Strike 2 | 85−90
−138%
|
200−210
+138%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 167
−66.5%
|
270−280
+66.5%
|
| Cyberpunk 2077 | 30−35
−169%
|
85−90
+169%
|
| Dota 2 | 94
−134%
|
220−230
+134%
|
| Far Cry 5 | 35
−240%
|
110−120
+240%
|
| Fortnite | 80
−101%
|
160−170
+101%
|
| Forza Horizon 4 | 69
−107%
|
140−150
+107%
|
| Forza Horizon 5 | 45−50
−144%
|
110−120
+144%
|
| Grand Theft Auto V | 56
−157%
|
144
+157%
|
| Hogwarts Legacy | 27−30
−207%
|
85−90
+207%
|
| Metro Exodus | 28
−214%
|
85−90
+214%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
−107%
|
140−150
+107%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 53
−143%
|
120−130
+143%
|
| Valorant | 120−130
−75.2%
|
210−220
+75.2%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 49
−163%
|
120−130
+163%
|
| Cyberpunk 2077 | 30−35
−169%
|
85−90
+169%
|
| Dota 2 | 88
−139%
|
210−220
+139%
|
| Far Cry 5 | 33
−261%
|
110−120
+261%
|
| Forza Horizon 4 | 55
−160%
|
140−150
+160%
|
| Hogwarts Legacy | 27−30
−207%
|
85−90
+207%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 53
−177%
|
140−150
+177%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 30
−330%
|
120−130
+330%
|
| Valorant | 120−130
−140%
|
300−310
+140%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 59
−173%
|
160−170
+173%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 30−33
−207%
|
90−95
+207%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−128%
|
250−260
+128%
|
| Grand Theft Auto V | 24−27
−276%
|
94
+276%
|
| Metro Exodus | 16
−238%
|
50−55
+238%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−133%
|
350−400
+133%
|
| Valorant | 150−160
−63%
|
250−260
+63%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 36
−167%
|
95−100
+167%
|
| Cyberpunk 2077 | 14−16
−200%
|
40−45
+200%
|
| Far Cry 5 | 30−35
−162%
|
85−90
+162%
|
| Forza Horizon 4 | 35−40
−181%
|
100−110
+181%
|
| Hogwarts Legacy | 16−18
−153%
|
40−45
+153%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−200%
|
65−70
+200%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 36
−169%
|
95−100
+169%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 12−14
−250%
|
40−45
+250%
|
| Grand Theft Auto V | 27−30
−182%
|
75−80
+182%
|
| Hogwarts Legacy | 9−10
−133%
|
21−24
+133%
|
| Metro Exodus | 10
−230%
|
30−35
+230%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 18
−222%
|
55−60
+222%
|
| Valorant | 85−90
−166%
|
220−230
+166%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 19
−211%
|
55−60
+211%
|
| Counter-Strike 2 | 12−14
−125%
|
27−30
+125%
|
| Cyberpunk 2077 | 6−7
−217%
|
18−20
+217%
|
| Dota 2 | 50−55
−141%
|
130−140
+141%
|
| Far Cry 5 | 16−18
−182%
|
45−50
+182%
|
| Forza Horizon 4 | 24−27
−165%
|
65−70
+165%
|
| Hogwarts Legacy | 9−10
−167%
|
24−27
+167%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 17
−188%
|
45−50
+188%
|
4K
Epic
| Fortnite | 11
−327%
|
45−50
+327%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Max-Q และ RTX 5050 Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 27% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 43% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 122% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5050 Mobile เร็วกว่า 330%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5050 Mobile เหนือกว่า GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบทั้ง 59 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 14.24 | 34.65 |
| ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 24 มิถุนายน 2025 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 30 วัตต์ | 50 วัตต์ |
GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 66.7%
ในทางกลับกัน RTX 5050 Mobile มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 143.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 5050 Mobile เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
