GeForce RTX 4050 Mobile เทียบกับ GTX 1650 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1650 Max-Q และ GeForce RTX 4050 Mobile โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4050 Mobile มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 132% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 342 | 128 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 47 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 36.94 | 51.51 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU117 | AD107 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 930 MHz | 1455 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1125 MHz | 1755 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 72.00 | 140.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.304 TFLOPS | 8.986 TFLOPS |
ROPs | 32 | 32 |
TMUs | 64 | 80 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 80 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 20 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 96 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1751 MHz | 16000 จีบี/s |
112.1 จีบี/s | 192.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 60
−58.3%
| 95
+58.3%
|
1440p | 30
−53.3%
| 46
+53.3%
|
4K | 18
−72.2%
| 31
+72.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 35−40
−238%
|
132
+238%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−182%
|
79
+182%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−222%
|
103
+222%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 35−40
−218%
|
124
+218%
|
Battlefield 5 | 64
−93.8%
|
120−130
+93.8%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−139%
|
67
+139%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−156%
|
82
+156%
|
Far Cry 5 | 38
−229%
|
125
+229%
|
Fortnite | 138
−11.6%
|
150−160
+11.6%
|
Forza Horizon 4 | 74
−82.4%
|
130−140
+82.4%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−149%
|
102
+149%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
−63.5%
|
130−140
+63.5%
|
Valorant | 120−130
−70.7%
|
210−220
+70.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−84.6%
|
72
+84.6%
|
Battlefield 5 | 54
−130%
|
120−130
+130%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−111%
|
59
+111%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 167
−65.9%
|
270−280
+65.9%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−116%
|
69
+116%
|
Dota 2 | 94
−79.8%
|
169
+79.8%
|
Far Cry 5 | 35
−237%
|
118
+237%
|
Fortnite | 80
−92.5%
|
150−160
+92.5%
|
Forza Horizon 4 | 69
−95.7%
|
130−140
+95.7%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−149%
|
100−110
+149%
|
Grand Theft Auto V | 56
−123%
|
125
+123%
|
Metro Exodus | 28
−204%
|
85
+204%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
−95.8%
|
130−140
+95.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 53
−194%
|
156
+194%
|
Valorant | 120−130
−70.7%
|
210−220
+70.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 49
−153%
|
120−130
+153%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−53.6%
|
43
+53.6%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
−103%
|
65
+103%
|
Dota 2 | 88
−84.1%
|
162
+84.1%
|
Far Cry 5 | 33
−230%
|
109
+230%
|
Forza Horizon 4 | 55
−145%
|
130−140
+145%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−95.1%
|
80
+95.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 53
−162%
|
130−140
+162%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30
−167%
|
80
+167%
|
Valorant | 120−130
−12.2%
|
138
+12.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
−161%
|
150−160
+161%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−113%
|
230−240
+113%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
−132%
|
58
+132%
|
Metro Exodus | 16
−213%
|
50
+213%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 140−150
−18.2%
|
170−180
+18.2%
|
Valorant | 150−160
−58.4%
|
240−250
+58.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 36
−153%
|
90−95
+153%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−47.1%
|
25
+47.1%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−164%
|
37
+164%
|
Far Cry 5 | 30−35
−109%
|
69
+109%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−162%
|
95−100
+162%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−130%
|
60−65
+130%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−146%
|
59
+146%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 36
−150%
|
90−95
+150%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−133%
|
27−30
+133%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−14.3%
|
8
+14.3%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−129%
|
64
+129%
|
Metro Exodus | 10
−350%
|
45
+350%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18
−161%
|
47
+161%
|
Valorant | 80−85
−154%
|
210−220
+154%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 19
−189%
|
55−60
+189%
|
Counter-Strike 2 | 7−8
−143%
|
16−18
+143%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−200%
|
18
+200%
|
Dota 2 | 50−55
−113%
|
115
+113%
|
Far Cry 5 | 16−18
−169%
|
43
+169%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−146%
|
60−65
+146%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−185%
|
35−40
+185%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 17
−159%
|
40−45
+159%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 11
−291%
|
40−45
+291%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1650 Max-Q และ RTX 4050 Mobile แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4050 Mobile เร็วกว่า 58% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4050 Mobile เร็วกว่า 53% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4050 Mobile เร็วกว่า 72% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4050 Mobile เร็วกว่า 350%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4050 Mobile เหนือกว่า GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบทั้ง 67 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 16.06 | 37.33 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 เมษายน 2019 | 3 มกราคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 6 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 30 วัตต์ | 50 วัตต์ |
GTX 1650 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 66.7%
ในทางกลับกัน RTX 4050 Mobile มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 132.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 200%
GeForce RTX 4050 Mobile เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ