GeForce RTX 4070 Ti เทียบกับ Arc A770M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A770M กับ GeForce RTX 4070 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A770M อย่างมหาศาลถึง 167% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 183 | 5 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 91 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 48.95 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.80 | 19.99 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | AD104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4096 | 7680 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1650 MHz | 2310 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2050 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 524.8 | 626.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.79 TFLOPS | 40.09 TFLOPS |
ROPs | 128 | 80 |
TMUs | 256 | 240 |
Tensor Cores | 512 | 240 |
Ray Tracing Cores | 32 | 60 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 285 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1313 MHz |
512.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 94
−146%
| 231
+146%
|
1440p | 57
−163%
| 150
+163%
|
4K | 39
−146%
| 96
+146%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.46 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.33 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.32 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
−220%
|
190−200
+220%
|
Cyberpunk 2077 | 113
−109%
|
236
+109%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 90−95
−30%
|
110−120
+30%
|
Counter-Strike 2 | 79
−143%
|
190−200
+143%
|
Cyberpunk 2077 | 48
−127%
|
109
+127%
|
Forza Horizon 4 | 256
−125%
|
575
+125%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−178%
|
220−230
+178%
|
Metro Exodus | 100
−73%
|
173
+73%
|
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−142%
|
150−160
+142%
|
Valorant | 120−130
−302%
|
450−500
+302%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 90−95
−30%
|
110−120
+30%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−220%
|
190−200
+220%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−138%
|
93
+138%
|
Dota 2 | 58
−253%
|
205
+253%
|
Far Cry 5 | 56
−171%
|
152
+171%
|
Fortnite | 140−150
−111%
|
300−350
+111%
|
Forza Horizon 4 | 211
−124%
|
473
+124%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−178%
|
220−230
+178%
|
Grand Theft Auto V | 86
−107%
|
178
+107%
|
Metro Exodus | 82
−98.8%
|
163
+98.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−20.1%
|
210−220
+20.1%
|
Red Dead Redemption 2 | 60−65
−142%
|
150−160
+142%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
−67.3%
|
170−180
+67.3%
|
Valorant | 120−130
−302%
|
450−500
+302%
|
World of Tanks | 270−280
−1.5%
|
270−280
+1.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
−30%
|
110−120
+30%
|
Counter-Strike 2 | 65
−195%
|
190−200
+195%
|
Cyberpunk 2077 | 33
−152%
|
83
+152%
|
Dota 2 | 100−110
−138%
|
243
+138%
|
Far Cry 5 | 85−90
−82.6%
|
150−160
+82.6%
|
Forza Horizon 4 | 179
−129%
|
410
+129%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−178%
|
220−230
+178%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−20.1%
|
210−220
+20.1%
|
Valorant | 120−130
−302%
|
450−500
+302%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 50−55
−189%
|
156
+189%
|
Grand Theft Auto V | 55−60
−184%
|
156
+184%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 27−30
−221%
|
90−95
+221%
|
World of Tanks | 200−210
−158%
|
500−550
+158%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−42.6%
|
85−90
+42.6%
|
Counter-Strike 2 | 43
−177%
|
110−120
+177%
|
Cyberpunk 2077 | 22
−141%
|
53
+141%
|
Far Cry 5 | 95−100
−66.7%
|
160−170
+66.7%
|
Forza Horizon 4 | 85−90
−229%
|
280
+229%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−244%
|
170−180
+244%
|
Metro Exodus | 65−70
−114%
|
148
+114%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−300%
|
190−200
+300%
|
Valorant | 85−90
−358%
|
400−450
+358%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−33
−270%
|
110−120
+270%
|
Dota 2 | 45
−282%
|
172
+282%
|
Grand Theft Auto V | 45
−282%
|
172
+282%
|
Metro Exodus | 37
−127%
|
84
+127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
−115%
|
200−210
+115%
|
Red Dead Redemption 2 | 20−22
−220%
|
60−65
+220%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−282%
|
172
+282%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−35
−168%
|
90−95
+168%
|
Counter-Strike 2 | 30−33
−270%
|
110−120
+270%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−118%
|
24
+118%
|
Dota 2 | 55−60
−304%
|
226
+304%
|
Far Cry 5 | 40−45
−144%
|
100−110
+144%
|
Fortnite | 40−45
−134%
|
95−100
+134%
|
Forza Horizon 4 | 74
−89.2%
|
140
+89.2%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−307%
|
110−120
+307%
|
Valorant | 45−50
−433%
|
240−250
+433%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A770M และ RTX 4070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 146% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 163% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 146% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 433%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.98 | 82.66 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 285 วัตต์ |
Arc A770M มีข้อได้เปรียบ และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 137.5%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 166.8% และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
GeForce RTX 4070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A770M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Arc A770M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ