GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ GeForce RTX 4070 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า TITAN RTX อย่างน่าประทับใจ 59% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 71 | 13 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 18 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.12 | 67.55 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.00 | 24.34 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 3086%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 96 | 80 |
TMUs | 288 | 224 |
Tensor Cores | 576 | 224 |
Ray Tracing Cores | 72 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
672.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 161
−32.9%
| 214
+32.9%
|
1440p | 103
−30.1%
| 134
+30.1%
|
4K | 74
−10.8%
| 82
+10.8%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.52
−455%
| 2.80
+455%
|
1440p | 24.26
−443%
| 4.47
+443%
|
4K | 33.77
−362%
| 7.30
+362%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 264
+20%
|
220−230
−20%
|
Counter-Strike 2 | 353
+8.3%
|
300−350
−8.3%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−148%
|
196
+148%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 198
−11.1%
|
220−230
+11.1%
|
Battlefield 5 | 163
−14.1%
|
180−190
+14.1%
|
Counter-Strike 2 | 342
+4.9%
|
300−350
−4.9%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−133%
|
184
+133%
|
Far Cry 5 | 165
−23%
|
203
+23%
|
Fortnite | 169
−78.7%
|
300−350
+78.7%
|
Forza Horizon 4 | 187
−57.2%
|
290−300
+57.2%
|
Forza Horizon 5 | 168
−22.6%
|
200−210
+22.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+14.1%
|
170−180
−14.1%
|
Valorant | 348
−23.3%
|
400−450
+23.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 118
−86.4%
|
220−230
+86.4%
|
Battlefield 5 | 164
−13.4%
|
180−190
+13.4%
|
Counter-Strike 2 | 270
−20.7%
|
300−350
+20.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−101%
|
159
+101%
|
Dota 2 | 155
−54.8%
|
240−250
+54.8%
|
Far Cry 5 | 156
−28.2%
|
200
+28.2%
|
Fortnite | 176
−71.6%
|
300−350
+71.6%
|
Forza Horizon 4 | 186
−58.1%
|
290−300
+58.1%
|
Forza Horizon 5 | 153
−34.6%
|
200−210
+34.6%
|
Grand Theft Auto V | 152
−13.8%
|
173
+13.8%
|
Metro Exodus | 134
−38.1%
|
185
+38.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
−8.6%
|
170−180
+8.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 267
−54.3%
|
412
+54.3%
|
Valorant | 336
−27.7%
|
400−450
+27.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160
−16.3%
|
180−190
+16.3%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−84.6%
|
144
+84.6%
|
Dota 2 | 148
−55.4%
|
230−240
+55.4%
|
Far Cry 5 | 146
−30.1%
|
190
+30.1%
|
Forza Horizon 4 | 175
−68%
|
290−300
+68%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
−30.1%
|
170−180
+30.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−44.6%
|
201
+44.6%
|
Valorant | 236
−81.8%
|
400−450
+81.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 134
−125%
|
300−350
+125%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 157
−45.9%
|
220−230
+45.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−63.8%
|
500−550
+63.8%
|
Grand Theft Auto V | 114
−29.8%
|
148
+29.8%
|
Metro Exodus | 85
−38.8%
|
118
+38.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 307
−58%
|
450−500
+58%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−71.4%
|
190−200
+71.4%
|
Cyberpunk 2077 | 66
−39.4%
|
92
+39.4%
|
Far Cry 5 | 134
−36.6%
|
183
+36.6%
|
Forza Horizon 4 | 157
−65%
|
250−260
+65%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−71.1%
|
154
+71.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−22.8%
|
150−160
+22.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−86.8%
|
70−75
+86.8%
|
Counter-Strike 2 | 45
−129%
|
100−110
+129%
|
Grand Theft Auto V | 134
−23.9%
|
166
+23.9%
|
Metro Exodus | 55
−34.5%
|
74
+34.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
−29.1%
|
133
+29.1%
|
Valorant | 300
−10.7%
|
300−350
+10.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
−40.2%
|
130−140
+40.2%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
−83.9%
|
100−110
+83.9%
|
Cyberpunk 2077 | 33
−33.3%
|
44
+33.3%
|
Dota 2 | 146
−57.5%
|
230−240
+57.5%
|
Far Cry 5 | 80
−28.8%
|
103
+28.8%
|
Forza Horizon 4 | 114
−91.2%
|
210−220
+91.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 74
−6.8%
|
75−80
+6.8%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 33% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 30% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 11% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 20%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 148%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 4การทดสอบ (7%)
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 53การทดสอบ (88%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.17 | 67.22 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 220 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 59.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 27.3%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า TITAN RTX ในการทดสอบประสิทธิภาพ