GeForce RTX 4070 เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ GeForce RTX 4070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า TITAN RTX อย่างน่าสนใจ 43% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 64 | 20 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 34 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.11 | 60.41 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.08 | 24.17 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 2763%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 96 | 64 |
TMUs | 288 | 184 |
Tensor Cores | 576 | 184 |
Ray Tracing Cores | 72 | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
672.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 162
−34%
| 217
+34%
|
1440p | 103
−20.4%
| 124
+20.4%
|
4K | 73
−5.5%
| 77
+5.5%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.43
−459%
| 2.76
+459%
|
1440p | 24.26
−402%
| 4.83
+402%
|
4K | 34.23
−340%
| 7.78
+340%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 166
+0.6%
|
160−170
−0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−173%
|
216
+173%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 85
−37.6%
|
110−120
+37.6%
|
Counter-Strike 2 | 141
−17%
|
160−170
+17%
|
Cyberpunk 2077 | 91
+4.6%
|
87
−4.6%
|
Forza Horizon 4 | 351
−37.3%
|
482
+37.3%
|
Forza Horizon 5 | 179
−1.1%
|
180−190
+1.1%
|
Metro Exodus | 135
−28.9%
|
174
+28.9%
|
Red Dead Redemption 2 | 127
−0.8%
|
120−130
+0.8%
|
Valorant | 246
−43.9%
|
350−400
+43.9%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 205
+75.2%
|
110−120
−75.2%
|
Counter-Strike 2 | 120
−37.5%
|
160−170
+37.5%
|
Cyberpunk 2077 | 86
+21.1%
|
71
−21.1%
|
Dota 2 | 153
−13.7%
|
174
+13.7%
|
Far Cry 5 | 104
−50%
|
156
+50%
|
Fortnite | 185
−49.2%
|
270−280
+49.2%
|
Forza Horizon 4 | 286
−31.5%
|
376
+31.5%
|
Forza Horizon 5 | 144
−25.7%
|
180−190
+25.7%
|
Grand Theft Auto V | 152
−14.5%
|
174
+14.5%
|
Metro Exodus | 118
−26.3%
|
149
+26.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 248
+15.3%
|
210−220
−15.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 93
−37.6%
|
120−130
+37.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 171
−107%
|
350−400
+107%
|
World of Tanks | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75
−56%
|
110−120
+56%
|
Counter-Strike 2 | 110
−50%
|
160−170
+50%
|
Cyberpunk 2077 | 80
+25%
|
64
−25%
|
Dota 2 | 148
−41.9%
|
210−220
+41.9%
|
Far Cry 5 | 100−110
−23.4%
|
130−140
+23.4%
|
Forza Horizon 4 | 242
−33.1%
|
322
+33.1%
|
Forza Horizon 5 | 143
−26.6%
|
180−190
+26.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 192
−12%
|
210−220
+12%
|
Valorant | 236
−50%
|
350−400
+50%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 114
−20.2%
|
137
+20.2%
|
Grand Theft Auto V | 114
−20.2%
|
137
+20.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 63
−42.9%
|
90−95
+42.9%
|
World of Tanks | 300−350
−58.3%
|
450−500
+58.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
−6.1%
|
85−90
+6.1%
|
Counter-Strike 2 | 74
−28.4%
|
95−100
+28.4%
|
Cyberpunk 2077 | 62
+55%
|
40
−55%
|
Far Cry 5 | 150−160
−3.9%
|
160−170
+3.9%
|
Forza Horizon 4 | 183
−21.3%
|
222
+21.3%
|
Forza Horizon 5 | 100
−34%
|
130−140
+34%
|
Metro Exodus | 114
−25.4%
|
143
+25.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−66%
|
150−160
+66%
|
Valorant | 192
−58.9%
|
300−350
+58.9%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45
−93.3%
|
85−90
+93.3%
|
Dota 2 | 134
−9%
|
146
+9%
|
Grand Theft Auto V | 134
−9%
|
146
+9%
|
Metro Exodus | 55
−18.2%
|
65
+18.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 197
−6.1%
|
200−210
+6.1%
|
Red Dead Redemption 2 | 41
−48.8%
|
60−65
+48.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 134
−9%
|
146
+9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75
−21.3%
|
90−95
+21.3%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−61.1%
|
85−90
+61.1%
|
Cyberpunk 2077 | 32
+77.8%
|
18
−77.8%
|
Dota 2 | 146
−37%
|
200−210
+37%
|
Far Cry 5 | 80−85
−31.3%
|
100−110
+31.3%
|
Fortnite | 90
−6.7%
|
95−100
+6.7%
|
Forza Horizon 4 | 109
−11%
|
121
+11%
|
Forza Horizon 5 | 60
−40%
|
80−85
+40%
|
Valorant | 105
−67.6%
|
170−180
+67.6%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 34% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 20% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 5% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 78%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 173%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 8การทดสอบ (13%)
- RTX 4070 เหนือกว่าใน 51การทดสอบ (82%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 49.06 | 70.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 200 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ
ในทางกลับกัน RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 42.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 40%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า TITAN RTX ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ