GeForce RTX 4090 เทียบกับ TITAN RTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ TITAN RTX และ GeForce RTX 4090 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4090 มีประสิทธิภาพดีกว่า TITAN RTX อย่างมหาศาลถึง 103% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 72 | 3 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 7 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.12 | 18.83 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.96 | 15.13 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | AD102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,499 | $1,599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4090 มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 788%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4608 | 16384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 2235 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 2520 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 76,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 Watt | 450 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 509.8 | 1,290 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.31 TFLOPS | 82.58 TFLOPS |
ROPs | 96 | 176 |
TMUs | 288 | 512 |
Tensor Cores | 576 | 512 |
Ray Tracing Cores | 72 | 128 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 24 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
672.0 จีบี/s | 1.01 ทีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 161
−59%
| 256
+59%
|
1440p | 102
−91.2%
| 195
+91.2%
|
4K | 73
−93.2%
| 141
+93.2%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 15.52
−149%
| 6.25
+149%
|
1440p | 24.50
−199%
| 8.20
+199%
|
4K | 34.23
−202%
| 11.34
+202%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 353
+0.6%
|
351
−0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−187%
|
227
+187%
|
Hogwarts Legacy | 167
−22.2%
|
204
+22.2%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 163
−20.9%
|
190−200
+20.9%
|
Counter-Strike 2 | 342
+0.6%
|
340
−0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−184%
|
224
+184%
|
Far Cry 5 | 165
−26.7%
|
209
+26.7%
|
Fortnite | 169
−78.7%
|
300−350
+78.7%
|
Forza Horizon 4 | 187
−84%
|
300−350
+84%
|
Forza Horizon 5 | 168
−67.3%
|
281
+67.3%
|
Hogwarts Legacy | 145
−24.8%
|
181
+24.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+14.1%
|
170−180
−14.1%
|
Valorant | 348
−94.5%
|
650−700
+94.5%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 164
−20.1%
|
190−200
+20.1%
|
Counter-Strike 2 | 270
−25.9%
|
340
+25.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 79
−172%
|
215
+172%
|
Dota 2 | 155
−63.2%
|
253
+63.2%
|
Far Cry 5 | 156
−28.8%
|
201
+28.8%
|
Fortnite | 176
−71.6%
|
300−350
+71.6%
|
Forza Horizon 4 | 186
−84.9%
|
300−350
+84.9%
|
Forza Horizon 5 | 153
−79.7%
|
275
+79.7%
|
Grand Theft Auto V | 152
−14.5%
|
174
+14.5%
|
Hogwarts Legacy | 117
−35.9%
|
159
+35.9%
|
Metro Exodus | 134
−70.9%
|
229
+70.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 163
−8.6%
|
170−180
+8.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 267
−117%
|
579
+117%
|
Valorant | 336
−101%
|
650−700
+101%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160
−23.1%
|
190−200
+23.1%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−171%
|
211
+171%
|
Dota 2 | 148
−51.4%
|
224
+51.4%
|
Far Cry 5 | 146
−28.1%
|
187
+28.1%
|
Forza Horizon 4 | 175
−96.6%
|
300−350
+96.6%
|
Hogwarts Legacy | 94
−69.1%
|
159
+69.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
−30.1%
|
170−180
+30.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 139
−119%
|
304
+119%
|
Valorant | 236
−188%
|
680
+188%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 134
−125%
|
300−350
+125%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 157
−98.7%
|
312
+98.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−63.3%
|
500−550
+63.3%
|
Grand Theft Auto V | 114
−42.1%
|
162
+42.1%
|
Metro Exodus | 85
−112%
|
180
+112%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 307
−58%
|
450−500
+58%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−75%
|
190−200
+75%
|
Cyberpunk 2077 | 66
−141%
|
159
+141%
|
Far Cry 5 | 134
−39.6%
|
187
+39.6%
|
Forza Horizon 4 | 157
−94.9%
|
300−350
+94.9%
|
Hogwarts Legacy | 69
−106%
|
142
+106%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90−95
−188%
|
259
+188%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 120−130
−22.8%
|
150−160
+22.8%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 45
−269%
|
166
+269%
|
Grand Theft Auto V | 134
−39.6%
|
187
+39.6%
|
Hogwarts Legacy | 27−30
−252%
|
102
+252%
|
Metro Exodus | 55
−149%
|
137
+149%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 103
−172%
|
280
+172%
|
Valorant | 300
−10.7%
|
300−350
+10.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 97
−40.2%
|
130−140
+40.2%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
−168%
|
150−160
+168%
|
Cyberpunk 2077 | 33
−145%
|
81
+145%
|
Dota 2 | 146
−55.5%
|
227
+55.5%
|
Far Cry 5 | 80
−113%
|
170
+113%
|
Forza Horizon 4 | 114
−168%
|
300−350
+168%
|
Hogwarts Legacy | 38
−126%
|
86
+126%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 74
−6.8%
|
75−80
+6.8%
|
นี่คือวิธีที่ TITAN RTX และ RTX 4090 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4090 เร็วกว่า 59% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4090 เร็วกว่า 91% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4090 เร็วกว่า 93% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 14%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4090 เร็วกว่า 269%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- RTX 4090 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (91%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.20 | 85.77 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 ธันวาคม 2018 | 20 กันยายน 2022 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 280 วัตต์ | 450 วัตต์ |
TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 60.7%
ในทางกลับกัน RTX 4090 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 103.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4090 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า TITAN RTX ในการทดสอบประสิทธิภาพ