Arc A380 เทียบกับ Radeon RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 และ Arc A380 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A380 อย่างมหาศาลถึง 166% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 87 | 341 |
จัดอันดับตามความนิยม | 89 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 93.50 | 44.43 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.03 | 14.91 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | DG2-128 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 14 มิถุนายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | $149 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า Arc A380 อยู่ 110%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 1024 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 2000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 2050 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 7,200 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 75 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 131.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 4.198 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 128 | 64 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 128 |
Ray Tracing Cores | 32 | 8 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 204 mm | 222 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 96 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 1937 MHz |
288.0 จีบี/s | 186.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 145
+196%
| 49
−196%
|
1440p | 67
+179%
| 24−27
−179%
|
4K | 35
+192%
| 12−14
−192%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.86
+63.9%
| 3.04
−63.9%
|
1440p | 4.01
+54.6%
| 6.21
−54.6%
|
4K | 7.69
+61.6%
| 12.42
−61.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
+228%
|
65
−228%
|
Counter-Strike 2 | 135
+187%
|
47
−187%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+261%
|
41
−261%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 158
+229%
|
48
−229%
|
Battlefield 5 | 130−140
+108%
|
65−70
−108%
|
Counter-Strike 2 | 108
+192%
|
37
−192%
|
Cyberpunk 2077 | 117
+255%
|
33
−255%
|
Far Cry 5 | 183
+195%
|
62
−195%
|
Fortnite | 170−180
+102%
|
85−90
−102%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+103%
|
76
−103%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+181%
|
40−45
−181%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+179%
|
55−60
−179%
|
Valorant | 230−240
+86.3%
|
120−130
−86.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 93
+191%
|
32
−191%
|
Battlefield 5 | 130−140
+108%
|
65−70
−108%
|
Counter-Strike 2 | 90
+190%
|
31
−190%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+38.3%
|
200−210
−38.3%
|
Cyberpunk 2077 | 100
+245%
|
29
−245%
|
Far Cry 5 | 174
+205%
|
57
−205%
|
Fortnite | 170−180
+102%
|
85−90
−102%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+114%
|
72
−114%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+181%
|
40−45
−181%
|
Grand Theft Auto V | 150
+355%
|
33
−355%
|
Metro Exodus | 113
+183%
|
40
−183%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+179%
|
55−60
−179%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
+218%
|
66
−218%
|
Valorant | 230−240
+86.3%
|
120−130
−86.3%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+108%
|
65−70
−108%
|
Counter-Strike 2 | 81
+200%
|
27
−200%
|
Cyberpunk 2077 | 90
+246%
|
26
−246%
|
Far Cry 5 | 163
+213%
|
52
−213%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+170%
|
57
−170%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+179%
|
55−60
−179%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
+262%
|
34
−262%
|
Valorant | 230−240
+86.3%
|
120−130
−86.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+102%
|
85−90
−102%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+77.8%
|
18−20
−77.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+143%
|
110−120
−143%
|
Grand Theft Auto V | 77
+208%
|
24−27
−208%
|
Metro Exodus | 65
+242%
|
18−20
−242%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+17.4%
|
140−150
−17.4%
|
Valorant | 260−270
+68.4%
|
150−160
−68.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+135%
|
40−45
−135%
|
Cyberpunk 2077 | 56
+300%
|
14−16
−300%
|
Far Cry 5 | 115
+238%
|
30−35
−238%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+203%
|
35−40
−203%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+258%
|
24−27
−258%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+212%
|
30−35
−212%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+175%
|
12−14
−175%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+186%
|
7−8
−186%
|
Grand Theft Auto V | 82
+193%
|
27−30
−193%
|
Metro Exodus | 38
+245%
|
10−12
−245%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
+181%
|
21−24
−181%
|
Valorant | 240−250
+189%
|
80−85
−189%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+191%
|
21−24
−191%
|
Counter-Strike 2 | 11
+57.1%
|
7−8
−57.1%
|
Cyberpunk 2077 | 24
+300%
|
6−7
−300%
|
Far Cry 5 | 57
+256%
|
16−18
−256%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
+185%
|
27−30
−185%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+267%
|
14−16
−267%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+253%
|
14−16
−253%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 40−45
+0%
|
40−45
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 27−30
+0%
|
27−30
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 12−14
+0%
|
12−14
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ Arc A380 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 196% ในความละเอียด 1080p
- RX 7600 เร็วกว่า 179% ในความละเอียด 1440p
- RX 7600 เร็วกว่า 192% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 355%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (95%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.68 | 16.04 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 14 มิถุนายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 6 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 166.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 11 เดือนและ
ในทางกลับกัน Arc A380 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 120%
Radeon RX 7600 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A380 ในการทดสอบประสิทธิภาพ