Arc A580 เทียบกับ Radeon RX 7600
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7600 และ Arc A580 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7600 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A580 อย่างมหาศาล 39% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 87 | 187 |
จัดอันดับตามความนิยม | 89 | 55 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 93.50 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.03 | 12.21 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 33 | DG2-512 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 10 ตุลาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $269 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1720 MHz | 1700 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2655 MHz | 2000 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,300 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 Watt | 175 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 339.8 | 384.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 21.75 TFLOPS | 12.29 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 128 | 192 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 384 |
Ray Tracing Cores | 32 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 204 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 2000 MHz |
288.0 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 145
+36.8%
| 106
−36.8%
|
1440p | 67
+24.1%
| 54
−24.1%
|
4K | 35
+6.1%
| 33
−6.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.86 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.01 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 7.69 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
+43%
|
149
−43%
|
Counter-Strike 2 | 135
+37.8%
|
98
−37.8%
|
Cyberpunk 2077 | 148
+103%
|
73
−103%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 158
+43.6%
|
110
−43.6%
|
Battlefield 5 | 130−140
+23.9%
|
100−110
−23.9%
|
Counter-Strike 2 | 108
+30.1%
|
83
−30.1%
|
Cyberpunk 2077 | 117
+80%
|
65
−80%
|
Far Cry 5 | 183
+36.6%
|
134
−36.6%
|
Fortnite | 170−180
+27.4%
|
130−140
−27.4%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+43.9%
|
107
−43.9%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+40.5%
|
80−85
−40.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+35.7%
|
110−120
−35.7%
|
Valorant | 230−240
+24.2%
|
180−190
−24.2%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 93
+17.7%
|
79
−17.7%
|
Battlefield 5 | 130−140
+23.9%
|
100−110
−23.9%
|
Counter-Strike 2 | 90
+21.6%
|
74
−21.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+2.2%
|
270−280
−2.2%
|
Cyberpunk 2077 | 100
+75.4%
|
57
−75.4%
|
Far Cry 5 | 174
+42.6%
|
122
−42.6%
|
Fortnite | 170−180
+27.4%
|
130−140
−27.4%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+51%
|
102
−51%
|
Forza Horizon 5 | 110−120
+40.5%
|
80−85
−40.5%
|
Grand Theft Auto V | 150
+74.4%
|
86
−74.4%
|
Metro Exodus | 113
+16.5%
|
97
−16.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+35.7%
|
110−120
−35.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 210
+20.7%
|
174
−20.7%
|
Valorant | 230−240
+24.2%
|
180−190
−24.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+23.9%
|
100−110
−23.9%
|
Counter-Strike 2 | 81
+20.9%
|
67
−20.9%
|
Cyberpunk 2077 | 90
+69.8%
|
53
−69.8%
|
Far Cry 5 | 163
+43%
|
114
−43%
|
Forza Horizon 4 | 150−160
+77%
|
87
−77%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
+35.7%
|
110−120
−35.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 123
+80.9%
|
68
−80.9%
|
Valorant | 230−240
+24.2%
|
180−190
−24.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 170−180
+27.4%
|
130−140
−27.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+23.1%
|
24−27
−23.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+36.8%
|
200−210
−36.8%
|
Grand Theft Auto V | 77
+108%
|
37
−108%
|
Metro Exodus | 65
+14%
|
57
−14%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 260−270
+16.5%
|
220−230
−16.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
+29.5%
|
75−80
−29.5%
|
Cyberpunk 2077 | 56
+43.6%
|
39
−43.6%
|
Far Cry 5 | 115
+32.2%
|
87
−32.2%
|
Forza Horizon 4 | 110−120
+53.3%
|
75
−53.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 86
+56.4%
|
55
−56.4%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 100−110
+47.2%
|
70−75
−47.2%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 30−35
+43.5%
|
21−24
−43.5%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+42.9%
|
14−16
−42.9%
|
Grand Theft Auto V | 82
+116%
|
38
−116%
|
Metro Exodus | 38
+2.7%
|
37
−2.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 59
−3.4%
|
61
+3.4%
|
Valorant | 240−250
+40.5%
|
170−180
−40.5%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+42.2%
|
45−50
−42.2%
|
Counter-Strike 2 | 11
+10%
|
10
−10%
|
Cyberpunk 2077 | 24
+14.3%
|
21
−14.3%
|
Far Cry 5 | 57
+21.3%
|
47
−21.3%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
+37.5%
|
56
−37.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
+66.7%
|
30−35
−66.7%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+55.9%
|
30−35
−55.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 80−85
+0%
|
80−85
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 50−55
+0%
|
50−55
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 27−30
+0%
|
27−30
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7600 และ Arc A580 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เร็วกว่า 37% ในความละเอียด 1080p
- RX 7600 เร็วกว่า 24% ในความละเอียด 1440p
- RX 7600 เร็วกว่า 6% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 7600 เร็วกว่า 116%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Arc A580 เร็วกว่า 3%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7600 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (92%)
- Arc A580 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 42.68 | 30.65 |
ความใหม่ล่าสุด | 24 พฤษภาคม 2023 | 10 ตุลาคม 2023 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 165 วัตต์ | 175 วัตต์ |
RX 7600 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 39.2% และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 6.1%
ในทางกลับกัน Arc A580 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 เดือน
Radeon RX 7600 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ