GeForce MX450 เทียบกับ Radeon RX 5500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5500M และ GeForce MX450 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 5500M มีประสิทธิภาพดีกว่า MX450 อย่างน่าประทับใจ 53% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 370 | 474 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.00 | 26.70 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | N17S-G5 / GP107-670-A1 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 ตุลาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 1 สิงหาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 896 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1375 MHz | 1395 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1645 MHz | 1575 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 4,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 Watt | 25 Watt (12 - 29 Watt TGP) |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 144.8 | 100.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.632 TFLOPS | 3.226 TFLOPS |
ROPs | 32 | 32 |
TMUs | 88 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x4 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR5, GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 10000 MHz |
224.0 จีบี/s | 64.03 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Optimus | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 57
+104%
| 28
−104%
|
1440p | 60
+275%
| 16
−275%
|
4K | 30
+20%
| 25
−20%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 53
−66%
|
88
+66%
|
Cyberpunk 2077 | 55
+71.9%
|
32
−71.9%
|
Hogwarts Legacy | 54
+238%
|
16−18
−238%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 60−65
+22.4%
|
49
−22.4%
|
Counter-Strike 2 | 53
−26.4%
|
67
+26.4%
|
Cyberpunk 2077 | 43
+95.5%
|
22
−95.5%
|
Far Cry 5 | 45−50
+41.2%
|
34
−41.2%
|
Fortnite | 75−80
+29.5%
|
61
−29.5%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+47.5%
|
40−45
−47.5%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+29.4%
|
34
−29.4%
|
Hogwarts Legacy | 46
+188%
|
16−18
−188%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50−55
+54.5%
|
30−35
−54.5%
|
Valorant | 146
+64%
|
85−90
−64%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 93
+145%
|
38
−145%
|
Counter-Strike 2 | 48
+71.4%
|
28
−71.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 191
+37.4%
|
130−140
−37.4%
|
Cyberpunk 2077 | 33
+154%
|
13
−154%
|
Dota 2 | 106
+20.5%
|
88
−20.5%
|
Far Cry 5 | 62
+114%
|
29
−114%
|
Fortnite | 75−80
+103%
|
39
−103%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+47.5%
|
40−45
−47.5%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+69.2%
|
26
−69.2%
|
Grand Theft Auto V | 79
+108%
|
38
−108%
|
Hogwarts Legacy | 33
+106%
|
16−18
−106%
|
Metro Exodus | 39
+290%
|
10
−290%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50−55
+54.5%
|
30−35
−54.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
+118%
|
33
−118%
|
Valorant | 144
+61.8%
|
85−90
−61.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75
+150%
|
30
−150%
|
Cyberpunk 2077 | 30
+275%
|
8
−275%
|
Dota 2 | 103
+27.2%
|
81
−27.2%
|
Far Cry 5 | 59
+119%
|
27
−119%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+47.5%
|
40−45
−47.5%
|
Hogwarts Legacy | 23
+43.8%
|
16−18
−43.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 59
+78.8%
|
30−35
−78.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
+125%
|
20
−125%
|
Valorant | 110−120
+31.5%
|
85−90
−31.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 65
+160%
|
25
−160%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+68.8%
|
16−18
−68.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 137
+95.7%
|
70−75
−95.7%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
+100%
|
11
−100%
|
Metro Exodus | 25
+150%
|
10−11
−150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 175
+289%
|
45−50
−289%
|
Valorant | 136
+33.3%
|
100−110
−33.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 44
+100%
|
22
−100%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
+50%
|
8−9
−50%
|
Far Cry 5 | 48
+140%
|
20
−140%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
+54.5%
|
21−24
−54.5%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
+60%
|
10−11
−60%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
+57.1%
|
14−16
−57.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 30−35
+63.2%
|
18−20
−63.2%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 10−11
+400%
|
2−3
−400%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 76
+68.9%
|
45−50
−68.9%
|
Grand Theft Auto V | 20
+0%
|
20−22
+0%
|
Hogwarts Legacy | 9−10
+125%
|
4−5
−125%
|
Metro Exodus | 10−11
+100%
|
5−6
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
+90%
|
10−11
−90%
|
Valorant | 129
+169%
|
45−50
−169%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 16
+45.5%
|
10−12
−45.5%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+400%
|
2−3
−400%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
+66.7%
|
3−4
−66.7%
|
Dota 2 | 53
+65.6%
|
32
−65.6%
|
Far Cry 5 | 14−16
+66.7%
|
9−10
−66.7%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
+60%
|
14−16
−60%
|
Hogwarts Legacy | 9−10
+125%
|
4−5
−125%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
+44.4%
|
9−10
−44.4%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 14−16
+55.6%
|
9−10
−55.6%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5500M และ GeForce MX450 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 5500M เร็วกว่า 104% ในความละเอียด 1080p
- RX 5500M เร็วกว่า 275% ในความละเอียด 1440p
- RX 5500M เร็วกว่า 20% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 5500M เร็วกว่า 400%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ GeForce MX450 เร็วกว่า 66%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 5500M เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (95%)
- GeForce MX450 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 12.85 | 8.41 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 ตุลาคม 2019 | 1 สิงหาคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 2 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 วัตต์ | 25 วัตต์ |
RX 5500M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 52.8% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
ในทางกลับกัน GeForce MX450 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 240%
Radeon RX 5500M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX450 ในการทดสอบประสิทธิภาพ