Radeon RX 6600M เทียบกับ GeForce MX450
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce MX450 และ Radeon RX 6600M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 6600M มีประสิทธิภาพดีกว่า MX450 อย่างมหาศาลถึง 272% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 475 | 145 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 26.53 | 24.63 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | N17S-G5 / GP107-670-A1 | Navi 23 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 สิงหาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 896 | 1792 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1395 MHz | 2068 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1575 MHz | 2416 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,700 million | 11,060 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 25 Watt (12 - 29 Watt TGP) | 100 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 100.8 | 270.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.226 TFLOPS | 8.659 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 64 | 112 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x4 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5, GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 10000 MHz | 1750 MHz |
64.03 จีบี/s | 224.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Optimus | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.1 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 28
−257%
| 100
+257%
|
1440p | 16
−244%
| 55
+244%
|
4K | 25
−20%
| 30
+20%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 88
−119%
|
190−200
+119%
|
Cyberpunk 2077 | 32
−234%
|
107
+234%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
−525%
|
100
+525%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 49
−147%
|
120−130
+147%
|
Counter-Strike 2 | 67
−188%
|
190−200
+188%
|
Cyberpunk 2077 | 22
−277%
|
83
+277%
|
Far Cry 5 | 34
−241%
|
116
+241%
|
Fortnite | 61
−146%
|
150−160
+146%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−405%
|
202
+405%
|
Forza Horizon 5 | 34
−256%
|
121
+256%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
−438%
|
86
+438%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−309%
|
130−140
+309%
|
Valorant | 85−90
−130%
|
200−210
+130%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 38
−218%
|
120−130
+218%
|
Counter-Strike 2 | 28
−589%
|
190−200
+589%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
−97.9%
|
270−280
+97.9%
|
Cyberpunk 2077 | 13
−431%
|
69
+431%
|
Dota 2 | 88
−29.5%
|
114
+29.5%
|
Far Cry 5 | 29
−272%
|
108
+272%
|
Fortnite | 39
−285%
|
150−160
+285%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−398%
|
199
+398%
|
Forza Horizon 5 | 26
−338%
|
114
+338%
|
Grand Theft Auto V | 38
−205%
|
116
+205%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
−325%
|
68
+325%
|
Metro Exodus | 10
−700%
|
80
+700%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−309%
|
130−140
+309%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 33
−330%
|
142
+330%
|
Valorant | 85−90
−130%
|
200−210
+130%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30
−303%
|
120−130
+303%
|
Cyberpunk 2077 | 8
−663%
|
61
+663%
|
Dota 2 | 81
−28.4%
|
104
+28.4%
|
Far Cry 5 | 27
−274%
|
101
+274%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−320%
|
168
+320%
|
Hogwarts Legacy | 16−18
−225%
|
52
+225%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−309%
|
130−140
+309%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20
−325%
|
85
+325%
|
Valorant | 85−90
−61.8%
|
144
+61.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 25
−500%
|
150−160
+500%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
−419%
|
80−85
+419%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 70−75
−233%
|
230−240
+233%
|
Grand Theft Auto V | 11
−455%
|
61
+455%
|
Metro Exodus | 10−11
−370%
|
47
+370%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−289%
|
170−180
+289%
|
Valorant | 100−110
−135%
|
240−250
+135%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 22
−305%
|
85−90
+305%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−388%
|
39
+388%
|
Far Cry 5 | 20
−350%
|
90
+350%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
−482%
|
128
+482%
|
Hogwarts Legacy | 10−11
−260%
|
36
+260%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
−377%
|
62
+377%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 18−20
−353%
|
85−90
+353%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 2−3
−1800%
|
35−40
+1800%
|
Grand Theft Auto V | 20−22
−190%
|
58
+190%
|
Hogwarts Legacy | 4−5
−450%
|
21−24
+450%
|
Metro Exodus | 5−6
−460%
|
28
+460%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 10−11
−340%
|
44
+340%
|
Valorant | 45−50
−334%
|
200−210
+334%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 10−12
−382%
|
50−55
+382%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−1800%
|
35−40
+1800%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−533%
|
19
+533%
|
Dota 2 | 32
−150%
|
80
+150%
|
Far Cry 5 | 10−11
−340%
|
44
+340%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−393%
|
74
+393%
|
Hogwarts Legacy | 4−5
−375%
|
19
+375%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 9−10
−367%
|
40−45
+367%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 9−10
−356%
|
40−45
+356%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce MX450 และ RX 6600M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 6600M เร็วกว่า 257% ในความละเอียด 1080p
- RX 6600M เร็วกว่า 244% ในความละเอียด 1440p
- RX 6600M เร็วกว่า 20% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 6600M เร็วกว่า 1800%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 6600M เหนือกว่า GeForce MX450 ในการทดสอบทั้ง 66 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 9.37 | 34.81 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 สิงหาคม 2020 | 31 พฤษภาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 25 วัตต์ | 100 วัตต์ |
GeForce MX450 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RX 6600M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 271.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
Radeon RX 6600M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX450 ในการทดสอบประสิทธิภาพ