GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ RTX 2080 Super
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 Super และ GeForce RTX 4070 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2080 Super อย่างน่าประทับใจ 54% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 62 | 11 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 18 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 31.43 | 67.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.99 | 24.45 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU104 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 23 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $699 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2080 Super อยู่ 115%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1650 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1815 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 348.5 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 11.15 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 64 | 80 |
TMUs | 192 | 224 |
Tensor Cores | 384 | 224 |
Ray Tracing Cores | 48 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1937 MHz | 1313 MHz |
495.9 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 142
−55.6%
| 221
+55.6%
|
1440p | 96
−42.7%
| 137
+42.7%
|
4K | 73
−11%
| 81
+11%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.92
−81.6%
| 2.71
+81.6%
|
1440p | 7.28
−66.5%
| 4.37
+66.5%
|
4K | 9.58
−29.5%
| 7.40
+29.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 140−150
−51%
|
210−220
+51%
|
Counter-Strike 2 | 135
−37.8%
|
186
+37.8%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−73.5%
|
196
+73.5%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 140−150
−51%
|
210−220
+51%
|
Battlefield 5 | 122
−52.5%
|
180−190
+52.5%
|
Counter-Strike 2 | 111
−64%
|
182
+64%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−62.8%
|
184
+62.8%
|
Far Cry 5 | 109
−86.2%
|
203
+86.2%
|
Fortnite | 253
−19.4%
|
300−350
+19.4%
|
Forza Horizon 4 | 143
−105%
|
290−300
+105%
|
Forza Horizon 5 | 130−140
−48.9%
|
200−210
+48.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 173
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
Valorant | 301
−42.2%
|
400−450
+42.2%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 140−150
−51%
|
210−220
+51%
|
Battlefield 5 | 110
−69.1%
|
180−190
+69.1%
|
Counter-Strike 2 | 97
−63.9%
|
159
+63.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 110−120
−40.7%
|
159
+40.7%
|
Dota 2 | 138
−52.2%
|
210−220
+52.2%
|
Far Cry 5 | 105
−90.5%
|
200
+90.5%
|
Fortnite | 185
−63.2%
|
300−350
+63.2%
|
Forza Horizon 4 | 142
−106%
|
290−300
+106%
|
Forza Horizon 5 | 130−140
−48.9%
|
200−210
+48.9%
|
Grand Theft Auto V | 113
−53.1%
|
173
+53.1%
|
Metro Exodus | 93
−98.9%
|
185
+98.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 168
−5.4%
|
170−180
+5.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 195
−111%
|
412
+111%
|
Valorant | 283
−51.2%
|
400−450
+51.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
−42%
|
180−190
+42%
|
Counter-Strike 2 | 86
−61.6%
|
139
+61.6%
|
Cyberpunk 2077 | 89
−61.8%
|
144
+61.8%
|
Dota 2 | 129
−47.3%
|
190−200
+47.3%
|
Far Cry 5 | 106
−79.2%
|
190
+79.2%
|
Forza Horizon 4 | 133
−120%
|
290−300
+120%
|
Forza Horizon 5 | 117
−45.3%
|
170−180
+45.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 159
−11.3%
|
170−180
+11.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 109
−84.4%
|
201
+84.4%
|
Valorant | 217
−97.2%
|
400−450
+97.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 180
−67.8%
|
300−350
+67.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−127%
|
80−85
+127%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−58.3%
|
500−550
+58.3%
|
Grand Theft Auto V | 95−100
−51%
|
148
+51%
|
Metro Exodus | 63
−87.3%
|
118
+87.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 273
−77.7%
|
450−500
+77.7%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 108
−77.8%
|
190−200
+77.8%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−61.4%
|
92
+61.4%
|
Far Cry 5 | 100
−83%
|
183
+83%
|
Forza Horizon 4 | 117
−121%
|
250−260
+121%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−44.6%
|
120−130
+44.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 95−100
−62.1%
|
154
+62.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 127
−18.9%
|
150−160
+18.9%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−82.1%
|
70−75
+82.1%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−132%
|
55−60
+132%
|
Grand Theft Auto V | 115
−44.3%
|
166
+44.3%
|
Metro Exodus | 40
−85%
|
74
+85%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 79
−68.4%
|
133
+68.4%
|
Valorant | 262
−26.7%
|
300−350
+26.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
−100%
|
130−140
+100%
|
Counter-Strike 2 | 12
−58.3%
|
19
+58.3%
|
Cyberpunk 2077 | 31
−41.9%
|
44
+41.9%
|
Dota 2 | 116
−46.6%
|
170−180
+46.6%
|
Far Cry 5 | 61
−68.9%
|
103
+68.9%
|
Forza Horizon 4 | 81
−169%
|
210−220
+169%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−51.8%
|
85−90
+51.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 68
−41.2%
|
95−100
+41.2%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 64
−23.4%
|
75−80
+23.4%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 Super และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 56% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 43% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 11% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 169%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 50.17 | 77.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 23 กรกฎาคม 2019 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 53.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 13.6%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2080 Super ในการทดสอบประสิทธิภาพ