RTX A2000 เทียบกับ Quadro RTX A6000
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Quadro RTX A6000 และ RTX A2000 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX A6000 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX A2000 อย่างน่าประทับใจ 68% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 44 | 154 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 12.69 | 92.63 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.46 | 34.43 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | GA106 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | เวิร์กสเตชัน |
วันที่วางจำหน่าย | 5 ตุลาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 10 สิงหาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $4,649 | $449 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX A2000 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX A6000 อยู่ 630%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10752 | 3328 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1410 MHz | 562 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1800 MHz | 1200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 12,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 Watt | 70 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 604.8 | 124.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 38.71 TFLOPS | 7.987 TFLOPS |
ROPs | 112 | 48 |
TMUs | 336 | 104 |
Tensor Cores | 336 | 104 |
Ray Tracing Cores | 84 | 26 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 167 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 8-pin EPS | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 48 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1500 MHz |
768.0 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 4x DisplayPort 1.4a | 4x mini-DisplayPort 1.4a |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.6 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 158
+73.6%
| 91
−73.6%
|
1440p | 123
+186%
| 43
−186%
|
4K | 106
+279%
| 28
−279%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 29.42
−496%
| 4.93
+496%
|
1440p | 37.80
−262%
| 10.44
+262%
|
4K | 43.86
−174%
| 16.04
+174%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 280−290
+51.6%
|
180−190
−51.6%
|
Cyberpunk 2077 | 130−140
+81.1%
|
70−75
−81.1%
|
Hogwarts Legacy | 120−130
+73%
|
70−75
−73%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 150−160
+33.6%
|
110−120
−33.6%
|
Counter-Strike 2 | 280−290
+51.6%
|
180−190
−51.6%
|
Cyberpunk 2077 | 130−140
+81.1%
|
70−75
−81.1%
|
Far Cry 5 | 52
−108%
|
108
+108%
|
Fortnite | 240−250
+65.3%
|
140−150
−65.3%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+64.8%
|
120−130
−64.8%
|
Forza Horizon 5 | 160−170
+34.7%
|
121
−34.7%
|
Hogwarts Legacy | 120−130
+73%
|
70−75
−73%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+35.1%
|
130−140
−35.1%
|
Valorant | 300−310
+48.5%
|
200−210
−48.5%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 150−160
+33.6%
|
110−120
−33.6%
|
Counter-Strike 2 | 280−290
+51.6%
|
180−190
−51.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0.7%
|
270−280
−0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 130−140
+81.1%
|
70−75
−81.1%
|
Dota 2 | 139
+73.8%
|
80−85
−73.8%
|
Far Cry 5 | 53
−84.9%
|
98
+84.9%
|
Fortnite | 240−250
+65.3%
|
140−150
−65.3%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+64.8%
|
120−130
−64.8%
|
Forza Horizon 5 | 160−170
+53.8%
|
106
−53.8%
|
Grand Theft Auto V | 128
−0.8%
|
129
+0.8%
|
Hogwarts Legacy | 120−130
+73%
|
70−75
−73%
|
Metro Exodus | 98
+63.3%
|
60
−63.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+35.1%
|
130−140
−35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 307
+162%
|
117
−162%
|
Valorant | 300−310
+48.5%
|
200−210
−48.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 150−160
+33.6%
|
110−120
−33.6%
|
Cyberpunk 2077 | 130−140
+81.1%
|
70−75
−81.1%
|
Dota 2 | 131
+74.7%
|
75−80
−74.7%
|
Far Cry 5 | 52
−75%
|
91
+75%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+64.8%
|
120−130
−64.8%
|
Hogwarts Legacy | 120−130
+73%
|
70−75
−73%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+35.1%
|
130−140
−35.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 180
+181%
|
64
−181%
|
Valorant | 300−310
+48.5%
|
200−210
−48.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 240−250
+65.3%
|
140−150
−65.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 150−160
+97.5%
|
80−85
−97.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
+74%
|
220−230
−74%
|
Grand Theft Auto V | 96
+65.5%
|
58
−65.5%
|
Metro Exodus | 84
+147%
|
34
−147%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
+43.5%
|
230−240
−43.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+54%
|
85−90
−54%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+103%
|
35−40
−103%
|
Far Cry 5 | 52
−17.3%
|
61
+17.3%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
+93.3%
|
90−95
−93.3%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
+78.9%
|
35−40
−78.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
+149%
|
47
−149%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+78.6%
|
80−85
−78.6%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 70−75
+91.9%
|
35−40
−91.9%
|
Grand Theft Auto V | 155
+177%
|
56
−177%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
+71.4%
|
21−24
−71.4%
|
Metro Exodus | 70
+250%
|
20
−250%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 146
+265%
|
40
−265%
|
Valorant | 300−350
+55.8%
|
190−200
−55.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 90−95
+82.4%
|
50−55
−82.4%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
+91.9%
|
35−40
−91.9%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+113%
|
16−18
−113%
|
Dota 2 | 128
+70.7%
|
75−80
−70.7%
|
Far Cry 5 | 50
+66.7%
|
30
−66.7%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
+108%
|
60−65
−108%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
+71.4%
|
21−24
−71.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+140%
|
40−45
−140%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+97.5%
|
40−45
−97.5%
|
นี่คือวิธีที่ RTX A6000 และ RTX A2000 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX A6000 เร็วกว่า 74% ในความละเอียด 1080p
- RTX A6000 เร็วกว่า 186% ในความละเอียด 1440p
- RTX A6000 เร็วกว่า 279% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX A6000 เร็วกว่า 265%
- ในเกม Far Cry 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX A2000 เร็วกว่า 108%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX A6000 เหนือกว่าใน 57การทดสอบ (90%)
- RTX A2000 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 50.88 | 30.37 |
ความใหม่ล่าสุด | 5 ตุลาคม 2020 | 10 สิงหาคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 48 จีบี | 6 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 วัตต์ | 70 วัตต์ |
RTX A6000 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 67.5% และ
ในทางกลับกัน RTX A2000 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 10 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 328.6%
Quadro RTX A6000 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX A2000 ในการทดสอบประสิทธิภาพ