GeForce RTX 4080 เทียบกับ RTX 4060
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4060 และ GeForce RTX 4080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4060 อย่างน่าประทับใจ 75% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 58 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | 2 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 100.00 | 29.11 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 30.75 | 19.34 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | AD107 | AD103 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $299 | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 อยู่ 244%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 9728 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1830 MHz | 2205 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2460 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,900 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 115 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 236.2 | 761.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 15.11 TFLOPS | 48.74 TFLOPS |
ROPs | 48 | 112 |
TMUs | 96 | 304 |
Tensor Cores | 96 | 304 |
Ray Tracing Cores | 24 | 76 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 240 mm | 310 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2125 MHz | 1400 MHz |
272.0 จีบี/s | 716.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 135
−73.3%
| 234
+73.3%
|
1440p | 66
−147%
| 163
+147%
|
4K | 38
−182%
| 107
+182%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.21
+131%
| 5.12
−131%
|
1440p | 4.53
+62.4%
| 7.36
−62.4%
|
4K | 7.87
+42.4%
| 11.21
−42.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
−13.1%
|
240−250
+13.1%
|
Counter-Strike 2 | 135
−51.1%
|
200−210
+51.1%
|
Cyberpunk 2077 | 139
−66.2%
|
231
+66.2%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 159
−42.8%
|
227
+42.8%
|
Battlefield 5 | 140−150
−33.1%
|
190−200
+33.1%
|
Counter-Strike 2 | 109
−99.1%
|
217
+99.1%
|
Cyberpunk 2077 | 107
−116%
|
231
+116%
|
Far Cry 5 | 185
−20.5%
|
223
+20.5%
|
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−89%
|
300−350
+89%
|
Forza Horizon 5 | 238
−4.6%
|
249
+4.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
Valorant | 260−270
−110%
|
550−600
+110%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 94
−118%
|
205
+118%
|
Battlefield 5 | 140−150
−33.1%
|
190−200
+33.1%
|
Counter-Strike 2 | 91
−122%
|
202
+122%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 90
−133%
|
210
+133%
|
Far Cry 5 | 169
−29%
|
218
+29%
|
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−89%
|
300−350
+89%
|
Forza Horizon 5 | 221
−8.1%
|
239
+8.1%
|
Grand Theft Auto V | 155
−14.8%
|
178
+14.8%
|
Metro Exodus | 107
−99.1%
|
213
+99.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 215
−153%
|
545
+153%
|
Valorant | 260−270
−110%
|
550−600
+110%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 140−150
−33.1%
|
190−200
+33.1%
|
Counter-Strike 2 | 76
−124%
|
170
+124%
|
Cyberpunk 2077 | 80
−138%
|
190
+138%
|
Far Cry 5 | 159
−28.3%
|
204
+28.3%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−89%
|
300−350
+89%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 111
−133%
|
259
+133%
|
Valorant | 260−270
−119%
|
575
+119%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−241%
|
120−130
+241%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−55.9%
|
500−550
+55.9%
|
Grand Theft Auto V | 90
−80%
|
162
+80%
|
Metro Exodus | 63
−144%
|
154
+144%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−65.5%
|
450−500
+65.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−67.5%
|
190−200
+67.5%
|
Cyberpunk 2077 | 48
−169%
|
129
+169%
|
Far Cry 5 | 109
−84.4%
|
201
+84.4%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−113%
|
300−350
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 80
−139%
|
191
+139%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−16.2%
|
150−160
+16.2%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−125%
|
90−95
+125%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−228%
|
82
+228%
|
Grand Theft Auto V | 89
−108%
|
185
+108%
|
Metro Exodus | 38
−174%
|
104
+174%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 67
−179%
|
187
+179%
|
Valorant | 280−290
−17.7%
|
300−350
+17.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−74.4%
|
130−140
+74.4%
|
Counter-Strike 2 | 9
−222%
|
29
+222%
|
Cyberpunk 2077 | 20
−215%
|
63
+215%
|
Far Cry 5 | 54
−159%
|
140
+159%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−207%
|
300−350
+207%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
−28%
|
95−100
+28%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 65−70
−17.9%
|
75−80
+17.9%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 249
+0%
|
249
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 233
+0%
|
233
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 227
+0%
|
227
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4060 และ RTX 4080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 73% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 147% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 182% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 241%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (92%)
- เสมอกันใน 5การทดสอบ (8%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 50.74 | 88.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 พฤษภาคม 2023 | 20 กันยายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 115 วัตต์ | 320 วัตต์ |
RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 178.3%
ในทางกลับกัน RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 75% และ
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 4060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ