GeForce RTX 4080 SUPER เทียบกับ RTX 4060
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4060 และ GeForce RTX 4080 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4060 อย่างน่าประทับใจ 74% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 58 | 6 |
จัดอันดับตามความนิยม | 2 | 73 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 100.00 | 38.48 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 30.66 | 19.12 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | AD107 | AD103 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $299 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 SUPER อยู่ 160%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1830 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2460 MHz | 2550 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,900 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 115 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 236.2 | 816.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 15.11 TFLOPS | 52.22 TFLOPS |
ROPs | 48 | 112 |
TMUs | 96 | 320 |
Tensor Cores | 96 | 320 |
Ray Tracing Cores | 24 | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 240 mm | 310 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2125 MHz | 1438 MHz |
272.0 จีบี/s | 736.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.8 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 135
−91.9%
| 259
+91.9%
|
1440p | 66
−173%
| 180
+173%
|
4K | 38
−208%
| 117
+208%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.21
+74.2%
| 3.86
−74.2%
|
1440p | 4.53
+22.5%
| 5.55
−22.5%
|
4K | 7.87
+8.5%
| 8.54
−8.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 213
−40.8%
|
300
+40.8%
|
Counter-Strike 2 | 135
−82.2%
|
246
+82.2%
|
Cyberpunk 2077 | 139
−79.1%
|
249
+79.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 159
−76.1%
|
280
+76.1%
|
Battlefield 5 | 140−150
−33.1%
|
190−200
+33.1%
|
Counter-Strike 2 | 109
−120%
|
240
+120%
|
Cyberpunk 2077 | 107
−130%
|
246
+130%
|
Far Cry 5 | 185
−29.7%
|
240
+29.7%
|
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−89%
|
344
+89%
|
Forza Horizon 5 | 238
−29.4%
|
308
+29.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
Valorant | 260−270
−106%
|
500−550
+106%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 94
−131%
|
217
+131%
|
Battlefield 5 | 140−150
−33.1%
|
190−200
+33.1%
|
Counter-Strike 2 | 91
−135%
|
214
+135%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 90
−164%
|
238
+164%
|
Far Cry 5 | 169
−34.3%
|
227
+34.3%
|
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−87.9%
|
342
+87.9%
|
Forza Horizon 5 | 221
−29%
|
285
+29%
|
Grand Theft Auto V | 155
−15.5%
|
179
+15.5%
|
Metro Exodus | 107
−112%
|
227
+112%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 215
−154%
|
547
+154%
|
Valorant | 260−270
−106%
|
500−550
+106%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 140−150
−33.1%
|
190−200
+33.1%
|
Counter-Strike 2 | 76
−150%
|
190
+150%
|
Cyberpunk 2077 | 80
−149%
|
199
+149%
|
Far Cry 5 | 159
−33.3%
|
212
+33.3%
|
Forza Horizon 4 | 180−190
−76.9%
|
322
+76.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−2.3%
|
170−180
+2.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 111
−137%
|
263
+137%
|
Valorant | 260−270
−106%
|
500−550
+106%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 200−210
−48%
|
300−350
+48%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−238%
|
120−130
+238%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−55.9%
|
500−550
+55.9%
|
Grand Theft Auto V | 90
−87.8%
|
169
+87.8%
|
Metro Exodus | 63
−157%
|
162
+157%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−65.5%
|
450−500
+65.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
−67.5%
|
190−200
+67.5%
|
Cyberpunk 2077 | 48
−167%
|
128
+167%
|
Far Cry 5 | 109
−90.8%
|
208
+90.8%
|
Forza Horizon 4 | 140−150
−113%
|
306
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 80
−176%
|
221
+176%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−16.2%
|
150−160
+16.2%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−123%
|
85−90
+123%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−368%
|
117
+368%
|
Grand Theft Auto V | 89
−110%
|
187
+110%
|
Metro Exodus | 38
−179%
|
106
+179%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 67
−204%
|
204
+204%
|
Valorant | 280−290
−17.7%
|
300−350
+17.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−74.4%
|
130−140
+74.4%
|
Counter-Strike 2 | 9
−211%
|
28
+211%
|
Cyberpunk 2077 | 20
−205%
|
61
+205%
|
Far Cry 5 | 54
−169%
|
145
+169%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−208%
|
305
+208%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
−28%
|
95−100
+28%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 65−70
−17.9%
|
75−80
+17.9%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4060 และ RTX 4080 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 92% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 173% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 208% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 368%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 51.29 | 88.99 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 พฤษภาคม 2023 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 115 วัตต์ | 320 วัตต์ |
RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 178.3%
ในทางกลับกัน RTX 4080 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 73.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 เดือนและ
GeForce RTX 4080 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 4060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ