GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ RTX 4080
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4080 และ GeForce RTX 4070 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4070 SUPER อย่างปานกลาง 15% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 4 | 11 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 18 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 29.11 | 67.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.34 | 24.45 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | AD103 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 4080 อยู่ 132%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 9728 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2205 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2505 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 45,900 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 761.5 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 48.74 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 112 | 80 |
TMUs | 304 | 224 |
Tensor Cores | 304 | 224 |
Ray Tracing Cores | 76 | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 310 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1400 MHz | 1313 MHz |
716.8 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 234
+5.9%
| 221
−5.9%
|
1440p | 163
+19%
| 137
−19%
|
4K | 107
+32.1%
| 81
−32.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.12
−89%
| 2.71
+89%
|
1440p | 7.36
−68.2%
| 4.37
+68.2%
|
4K | 11.21
−51.5%
| 7.40
+51.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 240−250
+10%
|
210−220
−10%
|
Counter-Strike 2 | 200−210
+9.7%
|
186
−9.7%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+17.9%
|
196
−17.9%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 227
+3.7%
|
210−220
−3.7%
|
Battlefield 5 | 190−200
+5.9%
|
180−190
−5.9%
|
Counter-Strike 2 | 217
+19.2%
|
182
−19.2%
|
Cyberpunk 2077 | 231
+25.5%
|
184
−25.5%
|
Far Cry 5 | 223
+9.9%
|
203
−9.9%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+17.4%
|
290−300
−17.4%
|
Forza Horizon 5 | 249
+20.3%
|
200−210
−20.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 550−600
+28.7%
|
400−450
−28.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 205
−6.8%
|
210−220
+6.8%
|
Battlefield 5 | 190−200
+5.9%
|
180−190
−5.9%
|
Counter-Strike 2 | 202
+27%
|
159
−27%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 210
+32.1%
|
159
−32.1%
|
Dota 2 | 249
+18.6%
|
210−220
−18.6%
|
Far Cry 5 | 218
+9%
|
200
−9%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+17.4%
|
290−300
−17.4%
|
Forza Horizon 5 | 239
+15.5%
|
200−210
−15.5%
|
Grand Theft Auto V | 178
+2.9%
|
173
−2.9%
|
Metro Exodus | 213
+15.1%
|
185
−15.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+32.3%
|
412
−32.3%
|
Valorant | 550−600
+28.7%
|
400−450
−28.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+5.9%
|
180−190
−5.9%
|
Counter-Strike 2 | 170
+22.3%
|
139
−22.3%
|
Cyberpunk 2077 | 190
+31.9%
|
144
−31.9%
|
Dota 2 | 233
+16.5%
|
200−210
−16.5%
|
Far Cry 5 | 204
+7.4%
|
190
−7.4%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+17.4%
|
290−300
−17.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 259
+28.9%
|
201
−28.9%
|
Valorant | 575
+34.3%
|
400−450
−34.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+50%
|
80−85
−50%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+0%
|
500−550
+0%
|
Grand Theft Auto V | 162
+9.5%
|
148
−9.5%
|
Metro Exodus | 154
+30.5%
|
118
−30.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+0%
|
450−500
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+2.1%
|
190−200
−2.1%
|
Cyberpunk 2077 | 129
+40.2%
|
92
−40.2%
|
Far Cry 5 | 201
+9.8%
|
183
−9.8%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+18.1%
|
250−260
−18.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 191
+24%
|
154
−24%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+26.8%
|
70−75
−26.8%
|
Counter-Strike 2 | 82
+41.4%
|
55−60
−41.4%
|
Grand Theft Auto V | 185
+11.4%
|
166
−11.4%
|
Metro Exodus | 104
+40.5%
|
74
−40.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 187
+40.6%
|
133
−40.6%
|
Valorant | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
Counter-Strike 2 | 29
+52.6%
|
19
−52.6%
|
Cyberpunk 2077 | 63
+43.2%
|
44
−43.2%
|
Dota 2 | 227
+19.5%
|
190−200
−19.5%
|
Far Cry 5 | 140
+35.9%
|
103
−35.9%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+39.4%
|
210−220
−39.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4080 และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 6% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 19% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 32% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 53%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 7%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 45การทดสอบ (74%)
- RTX 4070 SUPER เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- เสมอกันใน 15การทดสอบ (25%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 88.80 | 77.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2022 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 16 จีบี | 12 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 320 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 15.1% และ
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 45.5%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 4070 SUPER ในการทดสอบประสิทธิภาพ