Radeon RX 7900 XTX เทียบกับ Arc A580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc A580 และ Radeon RX 7900 XTX โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A580 อย่างมหาศาลถึง 160% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 187 | 9 |
จัดอันดับตามความนิยม | 55 | 53 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 34.83 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.21 | 15.64 |
สถาปัตยกรรม | Generation 12.7 (2022−2023) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | DG2-512 | Navi 31 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 10 ตุลาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 6144 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1700 MHz | 1929 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2000 MHz | 2498 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 21,700 million | 57,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 175 Watt | 355 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 384.0 | 959.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 12.29 TFLOPS | 61.39 TFLOPS |
ROPs | 96 | 192 |
TMUs | 192 | 384 |
Tensor Cores | 384 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 24 | 96 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 287 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2500 MHz |
512.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 2.0 | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 106
−129%
| 243
+129%
|
1440p | 54
−204%
| 164
+204%
|
4K | 33
−206%
| 101
+206%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 4.11 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 6.09 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 9.89 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 149
−141%
|
359
+141%
|
Counter-Strike 2 | 98
−118%
|
214
+118%
|
Cyberpunk 2077 | 73
−242%
|
250
+242%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 110
−164%
|
290
+164%
|
Battlefield 5 | 100−110
−74.3%
|
190−200
+74.3%
|
Counter-Strike 2 | 83
−190%
|
241
+190%
|
Cyberpunk 2077 | 65
−269%
|
240
+269%
|
Far Cry 5 | 134
−58.2%
|
212
+58.2%
|
Fortnite | 130−140
−124%
|
300−350
+124%
|
Forza Horizon 4 | 107
−216%
|
338
+216%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−220%
|
269
+220%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−53.9%
|
170−180
+53.9%
|
Valorant | 180−190
−143%
|
450−500
+143%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 79
−152%
|
199
+152%
|
Battlefield 5 | 100−110
−74.3%
|
190−200
+74.3%
|
Counter-Strike 2 | 74
−197%
|
220
+197%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−2.2%
|
270−280
+2.2%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−281%
|
217
+281%
|
Far Cry 5 | 122
−68%
|
205
+68%
|
Fortnite | 130−140
−124%
|
300−350
+124%
|
Forza Horizon 4 | 102
−224%
|
330
+224%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−202%
|
254
+202%
|
Grand Theft Auto V | 86
−103%
|
175
+103%
|
Metro Exodus | 97
−146%
|
239
+146%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−53.9%
|
170−180
+53.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 174
−213%
|
545
+213%
|
Valorant | 180−190
−143%
|
450−500
+143%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−74.3%
|
190−200
+74.3%
|
Counter-Strike 2 | 67
−207%
|
206
+207%
|
Cyberpunk 2077 | 53
−291%
|
207
+291%
|
Far Cry 5 | 114
−65.8%
|
189
+65.8%
|
Forza Horizon 4 | 87
−239%
|
295
+239%
|
Forza Horizon 5 | 80−85
−150%
|
210−220
+150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−53.9%
|
170−180
+53.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 68
−338%
|
298
+338%
|
Valorant | 180−190
−143%
|
450−500
+143%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−124%
|
300−350
+124%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−250%
|
90−95
+250%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
−157%
|
500−550
+157%
|
Grand Theft Auto V | 37
−346%
|
165
+346%
|
Metro Exodus | 57
−182%
|
161
+182%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 220−230
−117%
|
450−500
+117%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−151%
|
190−200
+151%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−274%
|
146
+274%
|
Far Cry 5 | 87
−115%
|
187
+115%
|
Forza Horizon 4 | 75
−287%
|
290
+287%
|
Forza Horizon 5 | 50−55
−150%
|
130−140
+150%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55
−340%
|
242
+340%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−110%
|
150−160
+110%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 21−24
−222%
|
70−75
+222%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−350%
|
60−65
+350%
|
Grand Theft Auto V | 38
−389%
|
186
+389%
|
Metro Exodus | 37
−192%
|
108
+192%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 61
−228%
|
200
+228%
|
Valorant | 170−180
−91.9%
|
300−350
+91.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−202%
|
130−140
+202%
|
Counter-Strike 2 | 10
−450%
|
55
+450%
|
Cyberpunk 2077 | 21
−248%
|
73
+248%
|
Far Cry 5 | 47
−238%
|
159
+238%
|
Forza Horizon 4 | 56
−305%
|
227
+305%
|
Forza Horizon 5 | 27−30
−159%
|
75−80
+159%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−191%
|
95−100
+191%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−132%
|
75−80
+132%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 197
+0%
|
197
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 178
+0%
|
178
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 159
+0%
|
159
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Arc A580 และ RX 7900 XTX แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 129% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 204% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 206% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XTX เร็วกว่า 450%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.65 | 79.68 |
ความใหม่ล่าสุด | 10 ตุลาคม 2023 | 3 พฤศจิกายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 175 วัตต์ | 355 วัตต์ |
Arc A580 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 11 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 102.9%
ในทางกลับกัน RX 7900 XTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 160% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
Radeon RX 7900 XTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ