GeForce RTX 2070 Super เทียบกับ RTX 2080 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 Ti และ GeForce RTX 2070 Super โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2070 Super อย่างปานกลาง 19% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 48 | 73 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 97 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 21.65 | 40.84 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.52 | 15.17 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | TU102 | TU104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2070 Super มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2080 Ti อยู่ 89%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4352 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1350 MHz | 1605 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1545 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 18,600 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 420.2 | 283.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 13.45 TFLOPS | 9.062 TFLOPS |
ROPs | 88 | 64 |
TMUs | 272 | 160 |
Tensor Cores | 544 | 320 |
Ray Tracing Cores | 68 | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 11 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 352 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1750 MHz |
616.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | 7.5 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 mediacal-01
SPECviewperf 12 - specvp12 showcase-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - Showcase
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - Catia
SPECviewperf 12 - Solidworks
SPECviewperf 12 - Siemens NX
SPECviewperf 12 - Creo
SPECviewperf 12 - Medical
SPECviewperf 12 - Energy
SPECviewperf 12 - specvp12 3dsmax-05
SPECviewperf 12 - 3ds Max
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 จำลองการทำงานกับ 3DS Max โดยรันการทดสอบทั้งหมด 11 ครั้งในสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างแบบจำลองสถาปัตยกรรมและแอนิเมชันสำหรับเกมคอมพิวเตอร์
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 167
+22.8%
| 136
−22.8%
|
1440p | 125
+56.3%
| 80
−56.3%
|
4K | 94
+77.4%
| 53
−77.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.98
−63%
| 3.67
+63%
|
1440p | 7.99
−28.1%
| 6.24
+28.1%
|
4K | 10.63
−12.9%
| 9.42
+12.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 160−170
−20.4%
|
195
+20.4%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
+11.1%
|
117
−11.1%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+35.1%
|
94
−35.1%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 160−170
+10.2%
|
147
−10.2%
|
Battlefield 5 | 170
+44.1%
|
118
−44.1%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
+35.4%
|
96
−35.4%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+51.2%
|
84
−51.2%
|
Far Cry 5 | 136
+10.6%
|
123
−10.6%
|
Fortnite | 302
+38.5%
|
218
−38.5%
|
Forza Horizon 4 | 182
+4.6%
|
174
−4.6%
|
Forza Horizon 5 | 150−160
+17.6%
|
131
−17.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 201
+8.1%
|
186
−8.1%
|
Valorant | 285
+2.2%
|
279
−2.2%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 160−170
+88.4%
|
86
−88.4%
|
Battlefield 5 | 164
+59.2%
|
103
−59.2%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
+54.8%
|
84
−54.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+62.8%
|
78
−62.8%
|
Dota 2 | 146
+6.6%
|
137
−6.6%
|
Far Cry 5 | 130
+11.1%
|
117
−11.1%
|
Fortnite | 232
+20.2%
|
193
−20.2%
|
Forza Horizon 4 | 181
+5.2%
|
172
−5.2%
|
Forza Horizon 5 | 150−160
+51%
|
102
−51%
|
Grand Theft Auto V | 134
−8.2%
|
145
+8.2%
|
Metro Exodus | 107
+18.9%
|
90
−18.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 193
+17%
|
165
−17%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 247
+36.5%
|
181
−36.5%
|
Valorant | 267
−1.1%
|
270
+1.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 159
+67.4%
|
95
−67.4%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
+66.7%
|
78
−66.7%
|
Cyberpunk 2077 | 120−130
+74%
|
73
−74%
|
Dota 2 | 141
+9.3%
|
129
−9.3%
|
Far Cry 5 | 122
+10.9%
|
110
−10.9%
|
Forza Horizon 4 | 168
+9.8%
|
153
−9.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 191
+24%
|
154
−24%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 135
+35%
|
100
−35%
|
Valorant | 259
+33.5%
|
194
−33.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 216
+28.6%
|
168
−28.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
+23.5%
|
30−35
−23.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
+22.2%
|
300−350
−22.2%
|
Grand Theft Auto V | 110−120
+15.8%
|
95
−15.8%
|
Metro Exodus | 76
+33.3%
|
57
−33.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 266
+1.1%
|
263
−1.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 134
+61.4%
|
83
−61.4%
|
Cyberpunk 2077 | 65−70
+44.7%
|
47
−44.7%
|
Far Cry 5 | 117
+19.4%
|
98
−19.4%
|
Forza Horizon 4 | 147
+17.6%
|
125
−17.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
+27.9%
|
85−90
−27.9%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 151
+29.1%
|
117
−29.1%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 40−45
+22.2%
|
35−40
−22.2%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+31.8%
|
21−24
−31.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270
+22.7%
|
220−230
−22.7%
|
Grand Theft Auto V | 142
+52.7%
|
93
−52.7%
|
Metro Exodus | 51
+37.8%
|
37
−37.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 98
+44.1%
|
68
−44.1%
|
Valorant | 259
+0.4%
|
258
−0.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 86
+62.3%
|
53
−62.3%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+142%
|
12
−142%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+39.1%
|
23
−39.1%
|
Dota 2 | 139
+8.6%
|
128
−8.6%
|
Far Cry 5 | 78
+44.4%
|
54
−44.4%
|
Forza Horizon 4 | 107
+27.4%
|
84
−27.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 88
+33.3%
|
66
−33.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 79
+36.2%
|
58
−36.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 100
+0%
|
100
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 68
+0%
|
68
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 39
+0%
|
39
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 Ti และ RTX 2070 Super แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Ti เร็วกว่า 23% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 Ti เร็วกว่า 56% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 Ti เร็วกว่า 77% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 Ti เร็วกว่า 142%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super เร็วกว่า 20%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Ti เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (88%)
- RTX 2070 Super เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (4%)
- เสมอกันใน 5การทดสอบ (7%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 56.06 | 47.12 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กันยายน 2018 | 9 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 11 จีบี | 8 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 215 วัตต์ |
RTX 2080 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 19% และ
ในทางกลับกัน RTX 2070 Super มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 16.3%
GeForce RTX 2080 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2070 Super ในการทดสอบประสิทธิภาพ