Radeon RX 5300M เทียบกับ GeForce RTX 2080 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 Max-Q และ Radeon RX 5300M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 Max-Q มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5300M อย่างมหาศาลถึง 175% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 138 | 396 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 30.99 | 10.59 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 1.0 (2019−2020) |
ชื่อรหัส GPU | TU104B | Navi 14 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 29 มกราคม 2019 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 13 พฤศจิกายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2944 | 1408 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 735 MHz | 1000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1095 MHz | 1445 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | 6,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 85 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 201.5 | 127.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.447 TFLOPS | 4.069 TFLOPS |
ROPs | 64 | 32 |
TMUs | 184 | 88 |
Tensor Cores | 368 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 46 | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 3 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 96 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1750 MHz |
384.0 จีบี/s | 168.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | No outputs |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 117
+88.7%
| 62
−88.7%
|
1440p | 82
+204%
| 27−30
−204%
|
4K | 51
+183%
| 18−20
−183%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 95−100
+219%
|
30−35
−219%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
+236%
|
21−24
−236%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+204%
|
24−27
−204%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 95−100
+219%
|
30−35
−219%
|
Battlefield 5 | 137
+48.9%
|
92
−48.9%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
+236%
|
21−24
−236%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+204%
|
24−27
−204%
|
Far Cry 5 | 105
+150%
|
40−45
−150%
|
Fortnite | 143
+25.4%
|
114
−25.4%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
+150%
|
50−55
−150%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
+197%
|
30−35
−197%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 199
+352%
|
40−45
−352%
|
Valorant | 200−210
+89.8%
|
100−110
−89.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 95−100
+219%
|
30−35
−219%
|
Battlefield 5 | 126
+59.5%
|
79
−59.5%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
+236%
|
21−24
−236%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+59.2%
|
170−180
−59.2%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+204%
|
24−27
−204%
|
Dota 2 | 126
+28.6%
|
98
−28.6%
|
Far Cry 5 | 97
+131%
|
40−45
−131%
|
Fortnite | 138
+68.3%
|
82
−68.3%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
+150%
|
50−55
−150%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
+197%
|
30−35
−197%
|
Grand Theft Auto V | 100
+56.3%
|
64
−56.3%
|
Metro Exodus | 74
+89.7%
|
39
−89.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 175
+298%
|
40−45
−298%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 145
+142%
|
60
−142%
|
Valorant | 200−210
+89.8%
|
100−110
−89.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 116
+63.4%
|
71
−63.4%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
+236%
|
21−24
−236%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
+204%
|
24−27
−204%
|
Dota 2 | 120
+26.3%
|
95
−26.3%
|
Far Cry 5 | 93
+121%
|
40−45
−121%
|
Forza Horizon 4 | 130−140
+150%
|
50−55
−150%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
+197%
|
30−35
−197%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 136
+209%
|
40−45
−209%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 78
+105%
|
38
−105%
|
Valorant | 134
+24.1%
|
100−110
−24.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 121
+109%
|
58
−109%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+148%
|
90−95
−148%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
+247%
|
18−20
−247%
|
Metro Exodus | 45−50
+220%
|
14−16
−220%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+84.2%
|
95−100
−84.2%
|
Valorant | 240−250
+81.8%
|
130−140
−81.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 92
+179%
|
30−35
−179%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
+86.7%
|
14−16
−86.7%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+236%
|
10−12
−236%
|
Far Cry 5 | 76
+181%
|
27−30
−181%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
+210%
|
30−33
−210%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+173%
|
21−24
−173%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
+221%
|
18−20
−221%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 101
+288%
|
24−27
−288%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 27−30
+170%
|
10−11
−170%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+220%
|
5−6
−220%
|
Grand Theft Auto V | 74
+208%
|
24−27
−208%
|
Metro Exodus | 21
+163%
|
8−9
−163%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 53
+231%
|
16−18
−231%
|
Valorant | 200−210
+208%
|
65−70
−208%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 53
+212%
|
16−18
−212%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
+220%
|
5−6
−220%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+325%
|
4−5
−325%
|
Dota 2 | 100−105
+122%
|
45−50
−122%
|
Far Cry 5 | 40
+208%
|
12−14
−208%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
+190%
|
21−24
−190%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+250%
|
10−11
−250%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50
+317%
|
12−14
−317%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 49
+308%
|
12−14
−308%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 Max-Q และ RX 5300M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 Max-Q เร็วกว่า 89% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 Max-Q เร็วกว่า 204% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 Max-Q เร็วกว่า 183% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 2080 Max-Q เร็วกว่า 352%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2080 Max-Q เหนือกว่า RX 5300M ในการทดสอบทั้ง 67 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 36.06 | 13.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 29 มกราคม 2019 | 13 พฤศจิกายน 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 3 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 85 วัตต์ |
RTX 2080 Max-Q มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 175.5% และและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 6.3%
ในทางกลับกัน RX 5300M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือนและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
GeForce RTX 2080 Max-Q เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5300M ในการทดสอบประสิทธิภาพ