GeForce RTX 2080 เทียบกับ GTX 970M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 970M กับ GeForce RTX 2080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 2080 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 970M อย่างมหาศาลถึง 229% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 365 | 72 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 26.64 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.53 | 15.53 |
สถาปัตยกรรม | Maxwell 2.0 (2014−2019) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GM204 | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 ตุลาคม 2014 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,560.89 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 970M และ RTX 2080 มีความคุ้มค่าใกล้เคียงกัน
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1280 | 2944 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 924 MHz | 1515 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1038 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,200 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | unknown | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 83.04 | 314.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.657 TFLOPS | 10.07 TFLOPS |
ROPs | 48 | 64 |
TMUs | 80 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 368 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | MXM-B (3.0) | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 3 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2500 MHz | 1750 MHz |
120 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
รองรับการแสดงผล VGA แบบแอนะล็อก | + | ไม่มีข้อมูล |
รองรับ DisplayPort หลายโหมด (DP++) | + | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GameStream | + | - |
GeForce ShadowPlay | + | - |
GPU Boost | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
GameWorks | + | - |
ตัวถอดรหัสวิดีโอ H.264, VC1, MPEG2 1080 | + | - |
Optimus | + | - |
BatteryBoost | + | - |
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
Ansel | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.5 | 4.6 |
OpenCL | 1.1 | 1.2 |
Vulkan | 1.1.126 | 1.2.131 |
CUDA | + | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 mediacal-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - Catia
SPECviewperf 12 - Solidworks
SPECviewperf 12 - Siemens NX
SPECviewperf 12 - Creo
SPECviewperf 12 - Medical
SPECviewperf 12 - Energy
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 136
−194%
| 400−450
+194%
|
Full HD | 58
−148%
| 144
+148%
|
1440p | 27
−278%
| 102
+278%
|
4K | 21
−252%
| 74
+252%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 44.15
−810%
| 4.85
+810%
|
1440p | 94.85
−1284%
| 6.85
+1284%
|
4K | 121.95
−1191%
| 9.45
+1191%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 35−40
−297%
|
130−140
+297%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−218%
|
240−250
+218%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−272%
|
100−110
+272%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 35−40
−297%
|
130−140
+297%
|
Battlefield 5 | 66
−147%
|
163
+147%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−218%
|
240−250
+218%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−272%
|
100−110
+272%
|
Far Cry 5 | 46
−154%
|
117
+154%
|
Fortnite | 163
−22.1%
|
199
+22.1%
|
Forza Horizon 4 | 61
−156%
|
156
+156%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−214%
|
130−140
+214%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60
−248%
|
209
+248%
|
Valorant | 110−120
−127%
|
263
+127%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−297%
|
130−140
+297%
|
Battlefield 5 | 54
−187%
|
155
+187%
|
Counter-Strike 2 | 75−80
−218%
|
240−250
+218%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 180−190
−47.1%
|
270−280
+47.1%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−272%
|
100−110
+272%
|
Dota 2 | 85−90
−67.4%
|
140−150
+67.4%
|
Far Cry 5 | 43
−160%
|
112
+160%
|
Fortnite | 65
−166%
|
173
+166%
|
Forza Horizon 4 | 53
−189%
|
153
+189%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−214%
|
130−140
+214%
|
Grand Theft Auto V | 49
−167%
|
131
+167%
|
Metro Exodus | 24
−275%
|
90
+275%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 49
−284%
|
188
+284%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−302%
|
181
+302%
|
Valorant | 110−120
−119%
|
254
+119%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 49
−196%
|
145
+196%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−272%
|
100−110
+272%
|
Dota 2 | 85−90
−67.4%
|
140−150
+67.4%
|
Far Cry 5 | 39
−172%
|
106
+172%
|
Forza Horizon 4 | 36
−267%
|
132
+267%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 33
−412%
|
169
+412%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 26
−308%
|
106
+308%
|
Valorant | 110−120
−92.2%
|
223
+92.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 49
−218%
|
156
+218%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−356%
|
120−130
+356%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 100−110
−204%
|
300−350
+204%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−327%
|
90−95
+327%
|
Metro Exodus | 14
−329%
|
60
+329%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−36.7%
|
170−180
+36.7%
|
Valorant | 140−150
−70.3%
|
247
+70.3%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 33
−279%
|
125
+279%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−367%
|
55−60
+367%
|
Far Cry 5 | 27
−267%
|
99
+267%
|
Forza Horizon 4 | 23
−413%
|
118
+413%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−309%
|
90−95
+309%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 31
−313%
|
128
+313%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 10−12
−236%
|
35−40
+236%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−522%
|
55−60
+522%
|
Grand Theft Auto V | 33
−224%
|
107
+224%
|
Metro Exodus | 7
−457%
|
39
+457%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16
−375%
|
76
+375%
|
Valorant | 75−80
−208%
|
234
+208%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 15
−407%
|
76
+407%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
−522%
|
55−60
+522%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−420%
|
24−27
+420%
|
Dota 2 | 50−55
−144%
|
120−130
+144%
|
Far Cry 5 | 13
−354%
|
59
+354%
|
Forza Horizon 4 | 6
−1250%
|
81
+1250%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12
−475%
|
69
+475%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 14
−364%
|
65
+364%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 970M และ RTX 2080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เร็วกว่า 194% ในความละเอียด 900p
- RTX 2080 เร็วกว่า 148% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 เร็วกว่า 278% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 เร็วกว่า 252% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 เร็วกว่า 1250%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2080 เหนือกว่า GTX 970M ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 12.75 | 41.95 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 ตุลาคม 2014 | 20 กันยายน 2018 |
จำนวน RAM สูงสุด | 3 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
RTX 2080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 229% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
GeForce RTX 2080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 970M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 970M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 2080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป