GeForce RTX 2070 Super เทียบกับ GTX 970M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 970M กับ GeForce RTX 2070 Super รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 2070 Super มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 970M อย่างมหาศาลถึง 219% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 362 | 73 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 97 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 40.84 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.62 | 15.17 |
สถาปัตยกรรม | Maxwell 2.0 (2014−2019) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | GM204 | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 ตุลาคม 2014 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,560.89 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 970M และ RTX 2070 Super มีความคุ้มค่าใกล้เคียงกัน
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1280 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 924 MHz | 1605 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1038 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,200 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | unknown | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 83.04 | 283.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.657 TFLOPS | 9.062 TFLOPS |
ROPs | 48 | 64 |
TMUs | 80 | 160 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | MXM-B (3.0) | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 3 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2500 MHz | 1750 MHz |
120 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
รองรับการแสดงผล VGA แบบแอนะล็อก | + | ไม่มีข้อมูล |
รองรับ DisplayPort หลายโหมด (DP++) | + | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
GameStream | + | - |
GeForce ShadowPlay | + | - |
GPU Boost | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
GameWorks | + | - |
ตัวถอดรหัสวิดีโอ H.264, VC1, MPEG2 1080 | + | - |
Optimus | + | - |
BatteryBoost | + | - |
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
Ansel | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.5 | 4.6 |
OpenCL | 1.1 | 1.2 |
Vulkan | 1.1.126 | 1.2.131 |
CUDA | + | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 mediacal-01
SPECviewperf 12 - specvp12 showcase-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - Showcase
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - Catia
SPECviewperf 12 - Solidworks
SPECviewperf 12 - Siemens NX
SPECviewperf 12 - Creo
SPECviewperf 12 - Medical
SPECviewperf 12 - Energy
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 136
−194%
| 400−450
+194%
|
Full HD | 58
−134%
| 136
+134%
|
1440p | 27
−196%
| 80
+196%
|
4K | 21
−152%
| 53
+152%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 44.15
−1103%
| 3.67
+1103%
|
1440p | 94.85
−1421%
| 6.24
+1421%
|
4K | 121.95
−1195%
| 9.42
+1195%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 35−40
−442%
|
195
+442%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−368%
|
117
+368%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−224%
|
94
+224%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 35−40
−308%
|
147
+308%
|
Battlefield 5 | 66
−78.8%
|
118
+78.8%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−284%
|
96
+284%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−190%
|
84
+190%
|
Far Cry 5 | 46
−167%
|
123
+167%
|
Fortnite | 163
−33.7%
|
218
+33.7%
|
Forza Horizon 4 | 61
−185%
|
174
+185%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−245%
|
131
+245%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 60
−210%
|
186
+210%
|
Valorant | 110−120
−138%
|
279
+138%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 35−40
−139%
|
86
+139%
|
Battlefield 5 | 54
−90.7%
|
103
+90.7%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−236%
|
84
+236%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 190−200
−46.3%
|
270−280
+46.3%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−169%
|
78
+169%
|
Dota 2 | 85−90
−53.9%
|
137
+53.9%
|
Far Cry 5 | 43
−172%
|
117
+172%
|
Fortnite | 65
−197%
|
193
+197%
|
Forza Horizon 4 | 53
−225%
|
172
+225%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−168%
|
102
+168%
|
Grand Theft Auto V | 49
−196%
|
145
+196%
|
Metro Exodus | 24
−275%
|
90
+275%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 49
−237%
|
165
+237%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−302%
|
181
+302%
|
Valorant | 110−120
−131%
|
270
+131%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 49
−93.9%
|
95
+93.9%
|
Counter-Strike 2 | 24−27
−212%
|
78
+212%
|
Cyberpunk 2077 | 27−30
−152%
|
73
+152%
|
Dota 2 | 85−90
−44.9%
|
129
+44.9%
|
Far Cry 5 | 39
−182%
|
110
+182%
|
Forza Horizon 4 | 36
−325%
|
153
+325%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−163%
|
100
+163%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 33
−367%
|
154
+367%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 26
−285%
|
100
+285%
|
Valorant | 110−120
−65.8%
|
194
+65.8%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 49
−243%
|
168
+243%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 100−110
−190%
|
300−350
+190%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−332%
|
95
+332%
|
Metro Exodus | 14
−307%
|
57
+307%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120−130
−36.7%
|
170−180
+36.7%
|
Valorant | 140−150
−81.4%
|
263
+81.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 33
−152%
|
83
+152%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−213%
|
50−55
+213%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−292%
|
47
+292%
|
Far Cry 5 | 27
−263%
|
98
+263%
|
Forza Horizon 4 | 23
−443%
|
125
+443%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−172%
|
68
+172%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−291%
|
85−90
+291%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 31
−277%
|
117
+277%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 10−12
−227%
|
35−40
+227%
|
Counter-Strike 2 | 6−7
−267%
|
21−24
+267%
|
Grand Theft Auto V | 33
−182%
|
93
+182%
|
Metro Exodus | 7
−429%
|
37
+429%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16
−325%
|
68
+325%
|
Valorant | 75−80
−239%
|
258
+239%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 15
−253%
|
53
+253%
|
Counter-Strike 2 | 6−7
−100%
|
12
+100%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−360%
|
23
+360%
|
Dota 2 | 50−55
−156%
|
128
+156%
|
Far Cry 5 | 13
−315%
|
54
+315%
|
Forza Horizon 4 | 6
−1300%
|
84
+1300%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−225%
|
39
+225%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12
−450%
|
66
+450%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 14
−314%
|
58
+314%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 970M และ RTX 2070 Super แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 194% ในความละเอียด 900p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 134% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 196% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 152% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super เร็วกว่า 1300%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 14.76 | 47.12 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 ตุลาคม 2014 | 9 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 3 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
RTX 2070 Super มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 219.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
GeForce RTX 2070 Super เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 970M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 970M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 2070 Super เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป