Radeon Pro 5500M เทียบกับ GeForce GTX 1660 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti กับ Radeon Pro 5500M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
GTX 1660 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 5500M อย่างน่าประทับใจ 90% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 165 | 319 |
จัดอันดับตามความนิยม | 27 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 43.14 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.26 | 14.29 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 1.0 (2019−2020) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | Navi 14 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชันแบบพกพา |
วันที่วางจำหน่าย | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 13 พฤศจิกายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 1536 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1450 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 6,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 85 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 169.9 | 139.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.437 TFLOPS | 4.454 TFLOPS |
ROPs | 48 | 32 |
TMUs | 96 | 96 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 229 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1500 MHz |
288.0 จีบี/s | 192.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 105
+78%
| 59
−78%
|
1440p | 60
+0%
| 60
+0%
|
4K | 39
+14.7%
| 34
−14.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.66 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.65 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 7.15 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
+112%
|
40−45
−112%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+123%
|
30−33
−123%
|
Cyberpunk 2077 | 78
+123%
|
35−40
−123%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
+112%
|
40−45
−112%
|
Battlefield 5 | 129
+69.7%
|
76
−69.7%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+123%
|
30−33
−123%
|
Cyberpunk 2077 | 71
+103%
|
35−40
−103%
|
Far Cry 5 | 109
+94.6%
|
55−60
−94.6%
|
Fortnite | 247
+171%
|
90−95
−171%
|
Forza Horizon 4 | 131
+92.6%
|
65−70
−92.6%
|
Forza Horizon 5 | 94
+129%
|
41
−129%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 200
+228%
|
60−65
−228%
|
Valorant | 190−200
+50%
|
130−140
−50%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+112%
|
40−45
−112%
|
Battlefield 5 | 112
+80.6%
|
62
−80.6%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+123%
|
30−33
−123%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+32.2%
|
208
−32.2%
|
Cyberpunk 2077 | 57
+62.9%
|
35−40
−62.9%
|
Dota 2 | 181
+63.1%
|
111
−63.1%
|
Far Cry 5 | 99
+76.8%
|
55−60
−76.8%
|
Fortnite | 143
+57.1%
|
90−95
−57.1%
|
Forza Horizon 4 | 122
+79.4%
|
65−70
−79.4%
|
Forza Horizon 5 | 72
+56.5%
|
45−50
−56.5%
|
Grand Theft Auto V | 119
+72.5%
|
69
−72.5%
|
Metro Exodus | 55
+48.6%
|
37
−48.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150
+146%
|
60−65
−146%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 116
+70.6%
|
68
−70.6%
|
Valorant | 190−200
+50%
|
130−140
−50%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 102
+72.9%
|
59
−72.9%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+123%
|
30−33
−123%
|
Cyberpunk 2077 | 46
+31.4%
|
35−40
−31.4%
|
Dota 2 | 168
+57%
|
107
−57%
|
Far Cry 5 | 94
+70.9%
|
55
−70.9%
|
Forza Horizon 4 | 97
+42.6%
|
65−70
−42.6%
|
Forza Horizon 5 | 66
+43.5%
|
45−50
−43.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
+111%
|
60−65
−111%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 62
+59%
|
39
−59%
|
Valorant | 118
+321%
|
28
−321%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 117
+28.6%
|
90−95
−28.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+92.9%
|
14−16
−92.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
+82.2%
|
118
−82.2%
|
Grand Theft Auto V | 62
+77.1%
|
35
−77.1%
|
Metro Exodus | 33
+50%
|
22
−50%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+63.6%
|
107
−63.6%
|
Valorant | 230−240
+41.5%
|
160−170
−41.5%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 76
+61.7%
|
47
−61.7%
|
Cyberpunk 2077 | 27
+80%
|
14−16
−80%
|
Far Cry 5 | 67
+67.5%
|
40
−67.5%
|
Forza Horizon 4 | 77
+87.8%
|
40−45
−87.8%
|
Forza Horizon 5 | 47
+56.7%
|
30−33
−56.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+112%
|
24−27
−112%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75
+103%
|
35−40
−103%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
+92.3%
|
12−14
−92.3%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+87.5%
|
8−9
−87.5%
|
Grand Theft Auto V | 56
+124%
|
25
−124%
|
Metro Exodus | 21
+61.5%
|
12−14
−61.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
+87%
|
21−24
−87%
|
Valorant | 180−190
+104%
|
90−95
−104%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 43
+207%
|
14
−207%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+87.5%
|
8−9
−87.5%
|
Cyberpunk 2077 | 11
+83.3%
|
6−7
−83.3%
|
Dota 2 | 94
+74.1%
|
54
−74.1%
|
Far Cry 5 | 35
+75%
|
20
−75%
|
Forza Horizon 4 | 51
+75.9%
|
27−30
−75.9%
|
Forza Horizon 5 | 24
+71.4%
|
14−16
−71.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 39
+144%
|
16−18
−144%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 25
+56.3%
|
16−18
−56.3%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
+0%
|
18−20
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 71
+0%
|
71
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti และ Pro 5500M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 78% ในความละเอียด 1080p
- เสมอกันในความละเอียด 1440p
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 15% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 321%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.15 | 17.43 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 กุมภาพันธ์ 2019 | 13 พฤศจิกายน 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 85 วัตต์ |
GTX 1660 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 90.2%
ในทางกลับกัน Pro 5500M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 41.2%
GeForce GTX 1660 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 5500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1660 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro 5500M เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา