GeForce RTX 2070 Super เทียบกับ GTX 1660 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti และ GeForce RTX 2070 Super โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2070 Super มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti อย่างน่าสนใจ 41% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 160 | 69 |
จัดอันดับตามความนิยม | 24 | 98 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 43.96 | 41.20 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.33 | 15.23 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | TU104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 9 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 2070 Super อยู่ 7%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1605 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 169.9 | 283.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.437 TFLOPS | 9.062 TFLOPS |
ROPs | 48 | 64 |
TMUs | 96 | 160 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1750 MHz |
288.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
SPECviewperf 12 - specvp12 maya-04
SPECviewperf 12 - specvp12 sw-03
SPECviewperf 12 - specvp12 snx-02
SPECviewperf 12 - specvp12 catia-04
SPECviewperf 12 - specvp12 creo-01
SPECviewperf 12 - specvp12 mediacal-01
SPECviewperf 12 - specvp12 energy-01
SPECviewperf 12 - Maya
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 สำหรับเวิร์กสเตชัน ใช้เอนจิน Autodesk Maya 13 เพื่อเรนเดอร์ฉากโรงไฟฟ้าพลังงานของซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งประกอบด้วยโพลีกอนมากกว่า 700,000 ชิ้น ในโหมดที่แตกต่างกันถึง 6 โหมด
SPECviewperf 12 - specvp12 3dsmax-05
SPECviewperf 12 - 3ds Max
ส่วนนี้ของการทดสอบ SPECviewperf 12 จำลองการทำงานกับ 3DS Max โดยรันการทดสอบทั้งหมด 11 ครั้งในสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างแบบจำลองสถาปัตยกรรมและแอนิเมชันสำหรับเกมคอมพิวเตอร์
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 103
−30.1%
| 134
+30.1%
|
1440p | 60
−31.7%
| 79
+31.7%
|
4K | 39
−30.8%
| 51
+30.8%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.71
−37.5%
| 3.72
+37.5%
|
1440p | 4.65
−35.8%
| 6.32
+35.8%
|
4K | 7.15
−36.8%
| 9.78
+36.8%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Cyberpunk 2077 | 78
−20.5%
|
94
+20.5%
|
Full HD
Medium Preset
Assassin's Creed Odyssey | 86
−20.9%
|
104
+20.9%
|
Assassin's Creed Valhalla | 74
−18.9%
|
88
+18.9%
|
Battlefield 5 | 130
−40.8%
|
183
+40.8%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 95
−25.3%
|
119
+25.3%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−18.3%
|
84
+18.3%
|
Far Cry 5 | 104
−43.3%
|
149
+43.3%
|
Far Cry New Dawn | 112
−41.1%
|
158
+41.1%
|
Forza Horizon 4 | 231
−19.9%
|
277
+19.9%
|
Hitman 3 | 70−75
−65.7%
|
116
+65.7%
|
Horizon Zero Dawn | 140−150
−92.4%
|
279
+92.4%
|
Metro Exodus | 134
−7.5%
|
144
+7.5%
|
Red Dead Redemption 2 | 119
−2.5%
|
122
+2.5%
|
Shadow of the Tomb Raider | 171
−18.7%
|
203
+18.7%
|
Watch Dogs: Legion | 120−130
−90.8%
|
229
+90.8%
|
Full HD
High Preset
Assassin's Creed Odyssey | 122
−41%
|
172
+41%
|
Assassin's Creed Valhalla | 55
−34.5%
|
74
+34.5%
|
Battlefield 5 | 121
−42.1%
|
172
+42.1%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 85
−41.2%
|
120
+41.2%
|
Cyberpunk 2077 | 57
−36.8%
|
78
+36.8%
|
Far Cry 5 | 82
−46.3%
|
120
+46.3%
|
Far Cry New Dawn | 79
−51.9%
|
120
+51.9%
|
Forza Horizon 4 | 218
−18.3%
|
258
+18.3%
|
Hitman 3 | 70−75
−61.4%
|
113
+61.4%
|
Horizon Zero Dawn | 140−150
−86.2%
|
270
+86.2%
|
Metro Exodus | 114
−26.3%
|
144
+26.3%
|
Red Dead Redemption 2 | 89
−3.4%
|
92
+3.4%
|
Shadow of the Tomb Raider | 127
−55.9%
|
198
+55.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70−75
−38.6%
|
95−100
+38.6%
|
Watch Dogs: Legion | 120−130
−79.2%
|
215
+79.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 53
−22.6%
|
65
+22.6%
|
Assassin's Creed Valhalla | 50
−32%
|
66
+32%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 70
−30%
|
91
+30%
|
Cyberpunk 2077 | 46
−58.7%
|
73
+58.7%
|
Far Cry 5 | 61
−36.1%
|
83
+36.1%
|
Forza Horizon 4 | 97
−57.7%
|
153
+57.7%
|
Hitman 3 | 70−75
−48.6%
|
104
+48.6%
|
Horizon Zero Dawn | 102
−52.9%
|
156
+52.9%
|
Shadow of the Tomb Raider | 110
−51.8%
|
167
+51.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 62
−61.3%
|
100
+61.3%
|
Watch Dogs: Legion | 120−130
+76.5%
|
68
−76.5%
|
Full HD
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 97
−17.5%
|
114
+17.5%
|
1440p
High Preset
Battlefield 5 | 75
−57.3%
|
118
+57.3%
|
Far Cry New Dawn | 54
−59.3%
|
86
+59.3%
|
1440p
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 41
−39%
|
57
+39%
|
Assassin's Creed Valhalla | 36
−47.2%
|
53
+47.2%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 52
−40.4%
|
73
+40.4%
|
Cyberpunk 2077 | 27
−74.1%
|
47
+74.1%
|
Far Cry 5 | 41
−61%
|
66
+61%
|
Forza Horizon 4 | 202
−26.2%
|
255
+26.2%
|
Hitman 3 | 40−45
−69%
|
71
+69%
|
Horizon Zero Dawn | 75
−57.3%
|
118
+57.3%
|
Metro Exodus | 65
−40%
|
91
+40%
|
Shadow of the Tomb Raider | 78
−57.7%
|
123
+57.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−60.9%
|
70−75
+60.9%
|
Watch Dogs: Legion | 170−180
−23.6%
|
215
+23.6%
|
1440p
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 65
−46.2%
|
95
+46.2%
|
4K
High Preset
Battlefield 5 | 36
−52.8%
|
55
+52.8%
|
Far Cry New Dawn | 29
−65.5%
|
48
+65.5%
|
Hitman 3 | 27−30
−55.6%
|
42
+55.6%
|
Horizon Zero Dawn | 160−170
+26.4%
|
129
−26.4%
|
Metro Exodus | 46
−69.6%
|
78
+69.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
−58.1%
|
68
+58.1%
|
4K
Ultra Preset
Assassin's Creed Odyssey | 25
−56%
|
39
+56%
|
Assassin's Creed Valhalla | 19
−68.4%
|
32
+68.4%
|
Call of Duty: Modern Warfare | 25
−76%
|
44
+76%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−109%
|
23
+109%
|
Far Cry 5 | 20
−75%
|
35
+75%
|
Forza Horizon 4 | 51
−64.7%
|
84
+64.7%
|
Shadow of the Tomb Raider | 43
−51.2%
|
65
+51.2%
|
Watch Dogs: Legion | 16−18
−81.3%
|
29
+81.3%
|
4K
Epic Preset
Red Dead Redemption 2 | 44
−34.1%
|
59
+34.1%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti และ RTX 2070 Super แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 30% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 32% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2070 Super เร็วกว่า 31% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Watch Dogs: Legion ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 76%
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2070 Super เร็วกว่า 109%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 2070 Super เหนือกว่าใน 70การทดสอบ (97%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.55 | 47.36 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 กุมภาพันธ์ 2019 | 9 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 215 วัตต์ |
GTX 1660 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 79.2%
ในทางกลับกัน RTX 2070 Super มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 41.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 เดือนและ
GeForce RTX 2070 Super เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ