Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เทียบกับ Arc 8-Core iGPU
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Arc 8-Core iGPU และ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
Arc 8-Core iGPU มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) อย่างมหาศาลถึง 107% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 308 | 497 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 32 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | ไม่มีข้อมูล | 41.12 |
สถาปัตยกรรม | Xe LPG (2023) | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Meteor Lake iGPU | Vega |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 ธันวาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 8 | 512 |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2300 MHz | 2100 MHz |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | ไม่มีข้อมูล | 15 Watt |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12_2 | 12_1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 35
+59.1%
| 22
−59.1%
|
1440p | 18
+5.9%
| 17
−5.9%
|
4K | 16
+60%
| 10
−60%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 53
+121%
|
24
−121%
|
Counter-Strike 2 | 26
+100%
|
13
−100%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+106%
|
18
−106%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40
+111%
|
19
−111%
|
Battlefield 5 | 70−75
+87.2%
|
39
−87.2%
|
Counter-Strike 2 | 23
+156%
|
9
−156%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+185%
|
13
−185%
|
Far Cry 5 | 39
+85.7%
|
21
−85.7%
|
Fortnite | 90−95
+100%
|
47
−100%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
+91.9%
|
35−40
−91.9%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+129%
|
21
−129%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
+117%
|
30−33
−117%
|
Valorant | 130−140
+59.5%
|
80−85
−59.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 28
+155%
|
11
−155%
|
Battlefield 5 | 70−75
+121%
|
33
−121%
|
Counter-Strike 2 | 23
+156%
|
9
−156%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
+354%
|
48
−354%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+311%
|
9
−311%
|
Far Cry 5 | 36
+80%
|
20
−80%
|
Fortnite | 90−95
+203%
|
31
−203%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
+91.9%
|
35−40
−91.9%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+269%
|
13
−269%
|
Grand Theft Auto V | 25
+31.6%
|
19
−31.6%
|
Metro Exodus | 28
+75%
|
16
−75%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
+117%
|
30−33
−117%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 48
+129%
|
21
−129%
|
Valorant | 130−140
+59.5%
|
80−85
−59.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70−75
+143%
|
30
−143%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+100%
|
16−18
−100%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+311%
|
9
−311%
|
Far Cry 5 | 34
+78.9%
|
19
−78.9%
|
Forza Horizon 4 | 70−75
+91.9%
|
35−40
−91.9%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+243%
|
14
−243%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
+117%
|
30−33
−117%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24
+71.4%
|
14
−71.4%
|
Valorant | 130−140
+262%
|
37
−262%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 90−95
+422%
|
18
−422%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
+505%
|
21
−505%
|
Grand Theft Auto V | 11
+22.2%
|
9
−22.2%
|
Metro Exodus | 21−24
+120%
|
10
−120%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
+655%
|
22
−655%
|
Valorant | 160−170
+77.9%
|
95−100
−77.9%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
+133%
|
21
−133%
|
Counter-Strike 2 | 18−20
+72.7%
|
10−12
−72.7%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+220%
|
5
−220%
|
Far Cry 5 | 32
+100%
|
16
−100%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
+115%
|
20−22
−115%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
+121%
|
14−16
−121%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+115%
|
12−14
−115%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
+129%
|
16−18
−129%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
+100%
|
7−8
−100%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
Grand Theft Auto V | 9
−11.1%
|
10
+11.1%
|
Metro Exodus | 14−16
+133%
|
6
−133%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
+213%
|
8−9
−213%
|
Valorant | 95−100
+120%
|
40−45
−120%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
+189%
|
9−10
−189%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
+133%
|
3−4
−133%
|
Far Cry 5 | 18−20
+138%
|
8
−138%
|
Forza Horizon 4 | 30−33
+114%
|
14−16
−114%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
+150%
|
6−7
−150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
+113%
|
8−9
−113%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
+113%
|
8−9
−113%
|
Full HD
High Preset
Dota 2 | 51
+0%
|
51
+0%
|
Full HD
Ultra Preset
Dota 2 | 48
+0%
|
48
+0%
|
4K
Ultra Preset
Dota 2 | 18
+0%
|
18
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Arc 8-Core iGPU และ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Arc 8-Core iGPU เร็วกว่า 59% ในความละเอียด 1080p
- Arc 8-Core iGPU เร็วกว่า 6% ในความละเอียด 1440p
- Arc 8-Core iGPU เร็วกว่า 60% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Arc 8-Core iGPU เร็วกว่า 655%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 11%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Arc 8-Core iGPU เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (94%)
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (1%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (4%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 18.29 | 8.85 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 ธันวาคม 2023 | 7 มกราคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 7 nm |
Arc 8-Core iGPU มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 106.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
Arc 8-Core iGPU เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) ในการทดสอบประสิทธิภาพ